ผู้เขียน หัวข้อ: ร้องนโยบายโค่นสวนยางกระทบชาวสวน1.5ล้านคน  (อ่าน 1022 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87931
    • ดูรายละเอียด
ร้องนโยบายโค่นสวนยางกระทบชาวสวน1.5ล้านคน

23 มิถุนายน 2558 เวลา 20:35 น


เมื่อวันที่  23 มิ.ย. ที่ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม ชาวบ้าน กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พี-มูฟ) ที่ถูกดำเนินคดีทางอาญาในคดีบุกรุกป่า  ได้เดินทางเข้าพบมีพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมในฐานะประธานการประชุม พร้อมน.ส.สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม (ทส.)พ.ต.ท.ประวุธ วงษ์สีนิล ผู้บัญชาการ สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และตัวแทนจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและตัวแทนจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการโค่น สวนยางพาราและการถูกดำเนินคดีจากการใช้ประโยชน์ที่ดินเอกชน รวมถึงที่สปก

นายไมตรี จงไกรรักษ์ แกนนำคณะทำงานกลุ่มพี-มูฟ เปิดเผยหลังการประชุมว่า จากนโยบายการโค่นต้นยางพาราของรัฐบาล ได้ส่งผลกระทบต่อชาวเกษตรทำสวนยางทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านคน ทั้งนี้ อยากเสนอแนะให้รัฐบาล ให้ช่วยเหลือทุกคนที่ได้รับผลกระทบที่อยู่ในพื้นที่เดิมนอกจากนี้ ยังมองว่านโยบายส่งเสริมการโค่นต้นยางพาราทั่วประเทศนั้น อาจทำให้เกิดความขัดแย้งต่อประเทศได้ ?จุดมุ่งหมายสูงสุดของการต่อสู้ คือ ต่อสู้เพื่อให้ได้มาเพื่อสิทธิชุมชมแปลง และไม่ต้องการสิทธิแบบปัจเจกอีกแล้ว

ขอแค่ให้มีพื้นที่ในการทำกินก็พอ?นายไมตรี กล่าว แกนนำกลุ่มพี-มูฟ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อสรุปของการประชุมในวันนี้ มี 4 ข้อสำคัญ คือ 1.จะปรับปรุงคณะอนุกรรมการซึ่งมี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ให้มีบทบาทหน้าที่ที่สามารถแก้ปัญหาได้และในรายกรณีเร่งด่วน รวมถึงจัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถสั่งชะลอการดำเนินการได้ 2.จัดให้มีการประชุมเพื่อหยิบยกกรณีเช่นนี้ทุก 15 วัน 3.กรณีที่ได้รับผลกระทบจะต้องมีการเยียวยาโดยให้ราชการมีระเบียบใหม่ และ4.ออกแบบแนวทางในการช่วยเหลือในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงยังไม่มีแนวทางที่แน่นอน เนื่องจากวันนี้การประชุมเป็นเพียงเวทีการแลกเปลี่ยนหารือและให้กรรมการทราบ ถึงคดีความต่าง ๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำหรับการประชุมมีกลุ่มชาวบ้านจากทั่วทุกภาคกว่า 20 คนเข้าร่วมฟังและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพื่อหาทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จากนโยบายการโค่นต้นยางพาราของรัฐบาล ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

[/size]