ผู้เขียน หัวข้อ: สกย.เปิดตลาดยางทั่วประเทศ108แห่งรองรับผลผลิตเกษตรกร  (อ่าน 1237 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87919
    • ดูรายละเอียด
สกย.เปิดตลาดยางทั่วประเทศ108แห่งรองรับผลผลิตเกษตรกร


       สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เผยฤดูเปิดกรีดใหม่ ปี '58 พร้อมอัดความรู้การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ถูกต้อง/การแปรรูปยางให้ได้คุณภาพ เปิดช่องทางการขายยางเข้าโครงการช่วยเหลือจากรัฐ เร่งเตรียมพร้อมด้านตลาดยาง 108 สกย. เป็นจุดรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรจนหมดฤดู แนะสถาบันเกษตรกรที่รับเงินกู้ ปรับปรุงพัฒนาโรงงานผลิตแปรรูปยางให้ได้มาตรฐาน เพื่อการแปรรูปผลผลิตที่มีคุณภาพ

 นายเชาว์ ทรงอาวุธ รองผู้อำนวยการ สกย. และโฆษก สกย. กล่าวว่า ในช่วงฤดูกาลเปิดกรีดใหม่นี้ สกย.ขับเคลื่อนและพัฒนาชาวสวนยางให้มีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ฤดูกาล เปิดกรีด โดยส่งเสริมให้ความรู้ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ถูกต้อง รวมถึงการแปรรูปยางเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งต้องผลักดันเกษตรกรแปรรูปผลผลิตให้มีคุณภาพ ทั้งในส่วนของยางแผ่นดิบและยางแผ่นรมควัน เหตุเพราะฤดูกรีดปีที่ผ่านมาเกษตรกรบางกลุ่มประสบปัญหาไม่สามารถนำยางมา จำหน่ายในโครงการของรัฐบาลได้ เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องคุณภาพ สกย.จึงมุ่งพัฒนาการแปรรูปผลผลิตของเกษตรกรอย่างเต็มที่ เพื่อลดการเกิดปัญหาดังกล่าว เพราะรัฐบาลยังมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรด้านตลาดยางอีกในอนาคต

 ทั้งนี้ หลักการแปรรูปยางพาราเบื้องต้น ยางแผ่นดิบต้องปราศจากสิ่งเจือปน สิ่งสกปรกต้องน้อยที่สุด ความหนาของแผ่นยางต้องไม่เกิน 3 มิลลิเมตร ความชื้นไม่เกิน 3% คือเกือบแห้งสนิท สีสม่ำเสมอ มีความยืดหยุ่นดี เป็นไปตามมาตรฐานของสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร ส่วนยางแผ่นรมควัน ปัจจุบันนับว่าค่อนข้างมีคุณภาพเนื่องจากโรงงานผลิตของสถาบันเกษตรกรส่วน ใหญ่เป็นโรงงานที่นำน้ำยางสดมาแปรรูปในโรงงานของสถาบันเกษตรกรเอง จึงเป็นที่ยอมรับว่าโรงงานของสถาบันเกษตรกรไทย มีความสามารถผลิตยางแผ่นรมควันคุณภาพดีได้

 อย่างไรก็ตาม เรื่องตลาดยางพารายังคงเป็นประเด็นหลักที่มีความสำคัญ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหลังจากจัดตั้งตลาดกลางเพิ่มอีก 6 จุด ที่ จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี จ.ยะลา จ.หนองคาย และ จ.บุรีรัมย์ เมื่อต้นปี แต่ยังไม่เพียงพอต่อการรองรับผลผลิตของเกษตรกรทั่วประเทศ สกย.จึงเร่งพัฒนาตลาดประมูลยางท้องถิ่นทั้ง 108 แห่งให้มีความพร้อมเพื่อขยายจุดรับซื้อให้เกษตรกร ทั้งนี้ หากมีโครงการช่วยเหลือจากรัฐบาล มั่นใจว่าตลาดประมูลยางท้องถิ่นทั้ง 108 แห่งจะสามารถเป็นศูนย์กลางการรับซื้อยางนำไปจำหน่ายเข้าโครงการของรัฐบาลได้ ช่วยลดต้นทุนการเดินทางของเกษตรกรที่ต้องไปจำหน่ายผลผลิตถึงตลาดกลาง และเป็นการส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา สร้างความเข้มแข็งในการต่อรองซื้อขายผลผลิตยางให้แก่เกษตรกรรายย่อย

 นอกจากการขยายตลาดยางพาราภายในประเทศ รัฐบาลยังมีการเจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการต่างประเทศ เพื่อทำสัญญาซื้อขายเบื้องต้นคาดว่าประมาณ 2 แสนตัน จึงน่าจะเป็นประโยชน์ในแง่ของการตลาดที่รัฐบาลเปิดทางให้เกษตรกรตลอดช่วงฤดู กาลเปิดกรีดใหม่

 ด้านสถาบันเกษตรกรนิติบุคคลที่ได้รับการอนุมัติวงเงินกู้จากธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อปรับปรุงโรงงานแปรรูปยาง ขณะนี้คาดว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง จึงอยากฝากให้สถาบันเกษตรกรเหล่านี้ดำเนินการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มกับต้นทุน เพราะถือเป็นอีกก้าวในการสนับสนุนสถาบันเกษตรกรให้มีแหล่งผลิตและแปรรูปยาง ที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งส่งผลถึงการพัฒนาคุณภาพยางพาราของประเทศในภาพรวมต่อไป               



   บ้านเมือง (Th)