อุตฯเร่งแก้ปัญหายางพาราตกต่ำ ดึงโรงงานจีนเข้าลงทุนไทยหนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2558 06:00:00 น.

อุตฯเร่งแก้ปัญหายางพาราตกต่ำ
l ดึงโรงงานจีนเข้าลงทุนไทย
l เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนแปรรูป
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2558 กลุ่มสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านแก่ง จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางจันทบุรี จำกัด ซึ่งมีสมาชิกเครือข่าย 25 สหกรณ์ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเข้าพบ นายจักรมณฑ์ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม โดยหารือแนวทางแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ
รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า หลังจากที่เกิดปัญหาราคายางตกต่ำในปีที่ผ่านมาทางรัฐบาลก็ได้เร่งแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในการแก้ปัญหาระยะยาวกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศเพิ่มสัดส่วนการนำ ยางพารามาแปรรูปจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียง 12% หรือใช้ยางพารา 5.6 แสนตัน/ปี ให้เพิ่มเป็น 25% ใช้ยางพารากว่า 1 ล้านตัน/ปี ภายในสิ้นปี 2559 โดยได้เดินทางไปพบปะกับโรงงานผลิตล้อยางรถยนต์ในประเทศจีน 10 ราย เพื่อดึงดูดให้เข้ามาตั้งโรงงานผลิตล้อยางในไทย
โดยผลจากการพบปะกับผู้ประกอบการจีน ได้มีโรงงานล้อยางจากจีนได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว 8 ราย มีความต้องการใช้ยางพาราไม่ต่ำกว่าโรงงานละ 2 แสนตัน/ปี รวมแล้วจะใช้ยางพาราเพิ่มกว่า 1 ล้านตัน/ปี ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้อนุมัติให้การส่งเสริมฯไปแล้ว 3 ราย มียอดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท โดยในขณะนี้ไทยส่งออกล้อยางรถยนต์ประมาณปีละ 1.2 แสนล้านบาท ถ้าเพิ่มขึ้นอีก 8 โรง ก็จะเพิ่มเม็ดเงินเข้ามาในประเทศอีกมหาศาล
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)เร่งดำเนินการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมยางครบวงจร ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาใช้เงินลงทุน 700 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติให้ใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ บริเวณถนนกาญจนวนิชใกล้กับด่านสะเดา จ.สงขลา มีเนื้อที่รวม 1.8 พันไร่ ให้ก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จ.สงขลา ซึ่งพื้นที่นี้สามารถเชื่อมต่อกับนิคมอุตสาหกรรมยางฯได้ ซึ่งสามารถต่อยอดในการดำเนินธุรกิจยาง และอำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง และโลจิสติกส์
นายเดชา กุลชาติ เลขานุการคณะกรรมการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านแก่ง จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมโรงงานแปรรูปยางพาราขั้นต้นที่ได้รับการอนุญาตประกอบกิจการทั้งประเทศ มีจำนวน 156ราย และโรงงานแปรรูปยางพาราขั้นปลายที่ทำผลิตภัณฑ์ยางจากธรรมชาติ หรือยางสังเคราะห์ มีจำนวน 699 ราย ส่วนโรงงานผลิตยางล้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 553 ราย ซึ่งถือว่ายังมีจำนวนน้อยเนื่องจากประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตยางดิบอันดับ หนึ่งของโลก การตั้งโรงงานจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้วัตถุดิบในอุตสาหกรรมยางพาราเพิ่ม ขึ้นอีก