ชาวสวนยางกระบี่เสริมรายได้ ปลูกสับปะรดพันธุ์ภูเก็ต ชี้ทุนต่ำ-กำไรงามโดย ไทยรัฐออนไลน์ 24 ส.ค. 2558 14:30 
เกษตรกรชาวสวนยาง จ.กระบี่ หันมาปลูกสับปะรดพันธุ์ภูเก็ต เป็นอาชีพเสริม หลังราคายางพาราตกต่ำ เผย มีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ ในราคาลูกละ 18 บ. สร้างรายได้ปีละหลายแสน ระบุ สับปะรด ดูแลง่ายต้นทุนต่ำ กำไรงาม ไม่มีโรคระบาด ...
วันที่ 24 ส.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ใน อ.คลองท่อม และ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ หันมาปลูกสับปะรดพันธุ์ภูเก็ต กันเป็นจำนวนมาก หลังปีนี้ ขายได้ราคาดี และมีตลาดแน่นอน ล่าสุดราคาลูกละ 18-20 บาท สร้างรายได้ให้เกษตร ปีละหลายแสนบาทต่อราย เนื่องจากสับปะรดพันธุ์ภูเก็ต ได้รับความนิยมสูงเป็นที่ต้องการของตลาด มีรสชาติหวานกรอบ เนื้อแน่น เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ
ด้าน นายพนม สามารถ อายุ 60 ปี เกษตรกรชาวสวนยางพารา อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.3 ต.คลองยาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้มาขอใช้พื้นที่สวนยางพารา ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ เพื่อปลูกสับปะรด โดยระบุว่า ตนเป็นเกษตรกรชาวสวนยางพารามานานกว่า 20 ปีแล้ว ช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำ จึงหันมาทดลองปลูกสับปะรดเป็นอาชีพเสริม โดยนำสายพันธุ์ภูเก็ตอันเป็นสายพันธุ์ท้องถิ่น ครั้งแรกก็ปลูกไม่มาก เพียงแค่ 20 ไร่ ภายในสวนยางของตนเอง โดยปลูกตามร่องสวนยางพาราที่อายุไม่เกิน 4 ปี หลังทดลองปลูก ไปได้ประมาณ 2 ปี พบว่าได้ผลดี และมีตลาดรับซื้อแน่นอน
ชาวสวนยาง จ.กระบี่ หันมาปลูกสับปะรดพันธุ์ภูเก็ตเสริมรายได้ กำไรงาม
นอกจากนี้ นายพนม กล่าวอีกว่า ในปีนี้พบว่า สับปะรดมีราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา มีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ ในราคาลูกละ 18 บาท ขณะที่ปีที่ผ่านมา ลูกละ 13-15 บาท แต่ผลผลิตก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ในปีนี้ตนจึงได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 100 ไร่ โดยขอใช้พื้นที่สวนยางขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ริมถนนเพชรเกษม ต.เพหลา โดยครั้งนี้ปลูกไปกว่า 4 หมื่นต้น และยังมีเกษตรกรอีกหลายราย มาปลูกในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนั้น ข้อดีของการปลูกสับปะรด คือ มีความเสี่ยงน้อยมาก เพราะเป็นผลไม้ที่ทนต่อสภาพอากาศ ไม่มีโรคระบาด โอกาสตายแทบไม่มี สิ่งที่ต้องระวังคือหนูเท่านั้น.
