ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 904 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82443
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพฤหัสบดีที่  3  กันยายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t] [/t]

วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและตกหนักบางแห่ง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
 
2. การใช้ยาง
 
- สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์อินโดนีเซียเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนกรกฎาคมลดลงร้อยละ   39.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการลดลง 11 เดือนติดต่อกัน   ทั้งนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์ลดลงร้อยละ 32.3 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน   โดยมียอดจำหน่ายรวม 55,613 คัน
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส เป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี   2556
- ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนให้ประเทศกำลังพัฒนาเตรียมรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ฉุดให้ เศรษฐกิจโลกอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อ   2 เดือนก่อนว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 3.3 ในปีนี้
- สมาคมวิศวกรรมเยอรมันเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.0 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในประเทศและในภูมิภาค
- สถาบันจัดการด้านอุปทานสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมธุรกิจในนครนิวยอร์กเดือนสิงหาคมขยายตัวในอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน   แม้การจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยรายงานของ ISM ระบุว่าดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กลดลงสู่ระดับ   51.1 ในเดือนสิงหาคม หลังจากพุ่งขึ้นในเดือนกรกฎาคม แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ในเดือนมิถุนายน และเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์สำหรับรถยนต์
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปรายงานว่า   ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยูโรโซนเดือนกรกฎาคมลดลงร้อยละ 0.1   เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคาน้ำมันร้อยละ 0.5   ส่วนดัชนี PPI สหภาพยุโรป (EU) เดือนกรกฎาคมลดลงร้อยละ 0.2   เมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่หากเมื่อเทียบเป็นรายปีดัชนี PPI ยูโรโซนลดลงร้อยละ 2.1 และ EU. ลดลงร้อยละ 2.7
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 35.83 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.06   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 120.49 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.31 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคมปิดตลาดที่ 46.25 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น   0.84 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรปรับตัวขึ้นเกินคาดในไตรมาส 2 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและอุป สงค์พลังงานในสหรัฐฯ และยังสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ว่าสต๊อคน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   (Brent)   ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดที่ 50.50ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.94   ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้สต๊อคน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น   4.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 455.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000   บาร์เรล
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 161.2 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง   0.7 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 168.6 เยนต่อกิโลกรัม   ลดลง 0.5 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- ราคา SICOM   เปิดตลาดที่ 132.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง   2.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- ผลสำรวจของออโตเมติก   ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (APD) ระบุว่า เดือนสิงหาคมภาคเอกชนของสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น   190,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง
- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนเตรียมปรับลดค่าธรรมเนียมตามท่าเรือ ด่านศุลกากร และด่านกักสินค้า เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับภาคธุรกิจ พร้อมระงับการเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่ได้อิงตามกฎหมายก่อนสิ้นปีนี้
- ไนท์แฟรงค์ บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์   เปิดเผยว่า ราคาบ้านทั่วโลกขยับขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 ในช่วง 12 เดือน จนถึงเดือนมิถุนายน 2558 เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซนและตลาดเกิดใหม่บางแห่ง
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางน่าจะทรงตัวไม่ปรับลดลงมากตามราคาต่างประเทศ เพราะผู้ประกอบการหลายรายยังมีความต้องการซื้อเพื่อส่งมอบตามสัญญาขายล่วง หน้า แหล่งข่าวรายงานว่ามีสัญญาขายในราคา   46 - 47 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาที่เกษตรกรได้รับยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับราคาตลาดต่าง ประเทศ
 
   ?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ ทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว โดยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นและเงินบาทอ่อนค่า ส่วนปัจจัยลบมาจากค่าเงินเยนค่อนข้างผันผวนและขาดปัจจัยชี้นำใหม่ ๆ กระตุ้นตลาด ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อและจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)?


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา