ไทยดึง'อินโดฯ-มาเลเซีย'พัฒนาเครือข่ายยางอาเซียน(2)
รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯได้มีนโยบายเร่งรัดให้มีการวิจัยและพัฒนาตลาดยางพารา รวมถึงอุตสาหกรรมยางเพิ่มมากขึ้น โดยสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร ได้ร่วมกับสมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ (ANRPC) โดยเฉพาะผู้ผลิตยางรายใหญ่ เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ดำเนินการศึกษาวิจัยและพัฒนาเครือข่ายตลาดภูมิภาค (Region Market) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านตลาดยางของกลุ่มประเทศอาเซียน พร้อมป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางที่ปรับตัวขึ้นลงอย่าง กะทันหัน ทั้งยังช่วยเพิ่มอำนาจ ต่อรองราคายางในตลาดโลก และลดการอ้างอิงราคาจากตลาดล่วงหน้า รวมถึงตลาดยางโตคอม (TOCOM) ของญี่ปุ่น และตลาดยางไซคอม (SICOM) สิงคโปร์ ซึ่งไม่มีการส่งมอบยางจริง
ตลาดยางภูมิภาคที่ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ร่วมกันผลักดันและพัฒนาขึ้นนี้ มุ่งให้มีการซื้อขายยางแบบส่งมอบจริง โดยที่ราคาซื้อขายยางธรรมชาติสะท้อนความเป็นจริงให้มากขึ้น ซึ่งคาดว่า กลไกตลาดดังกล่าวจะเริ่มขับเคลื่อนได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้านี้ เบื้องต้นคาดว่า จะมีซื้อ ขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 และยางแท่ง เอสทีอาร์ 20 (STR20) ผ่านตลาด Region Market พร้อมส่งมอบสินค้าจริงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการปั่นราคาและเพิ่มเสถียรภาพราคายางได้มากขึ้น และมุ่งก้าวสู่การเป็นตลาดอ้างอิงในอนาคต
นอกจากภาครัฐจะส่งเสริมให้นำผลงาน วิจัยตลาดยางพาราที่ประสบผลสำเร็จ มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว รัฐบาลยังได้อนุมัติให้มีการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยางล้อยานยนต์ วงเงิน 6,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนและรองรับอุตสาหกรรมล้อยางยนต์ของไทย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าตรวจสอบคุณภาพล้อยาง และไม่ต้องส่งล้อ ยางที่ไทยผลิตได้ไปทดสอบยังห้องปฏิบัติการ (Lab) ของต่างประเทศ เบื้องต้นคาดว่า ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ไทยจะมีศูนย์ทดสอบยางล้อภายในประเทศ และผลักดันสู่การเป็นศูนย์ทดสอบล้อยางของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต--จบ--
แนวหน้า (Th)