ชงชดเชยยาง2.5พันบาท/ไร่ ได้ทั้งเจ้าของสวน-คนกรีด/เลือกตัวแทนนั่งบอร์ดกยท.เดือด!
เลือกตัวแทนเกษตรกรนั่งบอร์ดการยางฯ ซัดกันนัว ?สุนทร-ทศพล? โต้เดือด ปมคัดเลือกตัวแทนเกษตรกรภาคใต้ แต่ละฝ่ายอ้างความชอบธรรม วงในเผยเตรียมลอยแพ 3 องค์กรยางที่ไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง หั่นเหลือ 7 องค์กร รวมจดทะเบียนใหม่ ขณะ ?อุทัย? เตรียมเสนอรายชื่อ 5 ตัวแทนเกษตรกรต่อบอร์ด กยท. 28 ก.ย.นี้ ด้านคณะทำงานพิจารณาราคายางเตรียมชงรัฐชดเชยราคายาง 2.5 พันบาท/ไร่ได้ทั้งเจ้าของสวนและคนกรีด
จาก พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา จะต้องมีการคัดเลือกตัวแทนเกษตรกรเข้าไปเป็นกรรมการ(บอร์ด)ชั่วคราว เพื่อทำหน้าที่ออกฎหมายลูก และกฎระเบียบภายใน 120 วันนั้น ทางบอร์ดที่มีนายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานคณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนายางพารา ได้เห็นชอบให้ 10 องค์กรยาง ในการสรรหาตัวแทนเกษตรกรจำนวน 5 คน เพื่อร่วมเป็นบอร์ดชั่วคราว
นาย สุนทร รักษ์รงค์ นายกสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยกับ ?ฐานเศรษฐกิจ? ว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการสัมมนาเพื่อขับเคลื่อนการยางแห่งประเทศไทยในภาคใต้ แต่ในที่สัมมนาได้มีการสอดแทรกโดยซ่อนการเลือกตัวแทนเกษตรกรเข้าไปเป็นบอร์ด ใน กยท. ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิด พ.ร.บ. การยางฯ มาตรา 4 ที่ตามระเบียบระบุให้เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกก่อน แล้วจึงจะมีสิทธิ์เลือกตั้งได้
ดัง นั้นเมื่อเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.ตนจึงตัดสินใจเดินออกจากห้องประชุมเพราะไม่เห็นด้วย ทั้งที่ตนเป็นแคนดิเดตตัวแทนเกษตรกรภาคใต้ในวันนั้น มองว่ามีความไม่ชอบมาพากล โดยมีกลุ่มนักการเมืองภาคอีสานครอบงำอยู่เบื้องหลัง
นาย สุนทร รักษ์รงค์ ในฐานะคณะทำงานพิจารณาราคายาง ซึ่งเป็น 1 ใน 7 คณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนายางพารา ที่แต่งตั้งโดยกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ระบุว่าล่าสุดคณะทำงานได้เตรียมนำเสนอโมเดลการชดเชยราคายางพารา ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม ให้รัฐบาลจ่ายชดเชยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558-เมษายน 2559 คิดคำนวณปริมาณชดเชยราคาตามน้ำหนัก อาทิ ยางกรีดได้ 250 กิโลกรัม/ไร่/ปี ชดเชยไม่เกิน 15 ไร่ หรือเฉลี่ยชดเชยไร่ละ 2.5 พันบาท โดยให้รัฐจ่ายเป็นพันธบัตร คิดย้อนหลังชดเชยให้เกษตรกร ซึ่งจะได้รับการชดเชยทั้งเจ้าของสวนและลูกจ้างกรีด
ขณะ ที่นายทศพล ขวัญรอด ประธานเครือข่ายชาวสวนยางและปาล์มนํ้ามันแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์คัดเลือกตัวแทนเกษตรกรภาคใต้ (22 ก.ย.58) โดยชี้ว่าสาเหตุที่นายสุนทรและสมาชิกจาก 2 ใน 5 สมาคมองค์กรยางภาคใต้ได้ออกจากห้องประชุมไปเนื่องจากเห็นว่าเสียงสนับสนุน ไม่เพียงพอ ซึ่งการกระทำครั้งนี้ตั้งคำถามา ก่อนหนานี้มีการประชุมตัวแทน 5 คน เพื่อคัดเลือกเข้าบอร์ดกยท. ทำไมไม่คัดค้านในที่ประชุม แต่หลังจากที่ประชุมมีมติแล้ว มากลับคำว่าจะให้นับต้นยางแทนหากนับต้นยางจริงภาคใต้จะได้ตัวแทนเกษตรกรนั่ง ในบอรด์กยท. 3-4 คนแน่นอน และมีการกล่าวหามากมาย ไม่ว่าเรื่องการใช้เงิน 40 ล้านบาทซื้อเสียงเลือกตัวแทนภาคใต้บ้าง ถูกการเมืองภาคอีสานครอบงำบ้าง การกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสม ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือเพื่อชาวสวนกันแน่
ด้าน นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสมาพันธ์องค์กรเกษตรกรสวนยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เลือกตั้งและได้ตัวแทนเกษตรกรเพื่อไปเป็นบอร์ด กยท.ชั่วคราวครบตามจำนวน 5 คนแล้ว โดยภาคเหนือ ได้แก่ นายสาย อินคำ ประธานคณะเครือข่ายจังหวัดพะเยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นายธีระชัย แสนแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายกสมาคมเกษตรกรชาวสวนยางภาคอีสาน ภาคกลางและภาคตะวันออก ได้แก่ นายสังข์เวิน ทวดห้อย นายกสมาคมเครือข่ายชาวสวนยาง และภาคใต้ มี 2 คน ได้แก่ นายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อยแห่งประเทศไทย(ส.ค.ย.) และนายเสวก ทองเกตุ ประธานชมรมเครือข่ายสถาบันการเกษตรชาวสวนยางพาราจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากนี้จะนำรายชื่อส่งให้บอร์ด กยท.ในวันที่ 28 กันยายนนี้
ขณะ ที่วงในตัวแทนเกษตรกรจาก 10 สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เผยว่า ในวันที่ 26 กันยายนนี้ จะมีการตัดกลุ่มเกษตรกรที่ไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับมติที่ประชุมในการเลือก ตั้งตัวแทนชาวสวนยางนั่งบอร์ด กยท. ได้แก่ สภาเกษตรกรแห่งชาติ สมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้และชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และจะมีการรวมกลุ่มใหม่เหลือ 7 องค์กร โดยจะจดทะเบียนใหม่ในนาม ?สมัชชาสถาบันเกษตรกรแห่งประเทศไทย? เพื่อสานเจตนารมณ์นายกรัฐมนตรีให้รวมองค์กรยางเป็นหนึ่งให้ได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3091 วันที่ 27-30 กันยายน พ.ศ. 2558
