ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 890 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88322
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพุธที่  11  พฤศจิกายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย

วิเคราะห์
1.สภาพภูมิอากาศ

- ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง ส่วนภาคอื่น ๆ มีฝนร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีฝนตกเพียงร้อยละ 10.0 ของพื้นที่
2.การใช้ยาง

- บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ระบุว่า บริษํทใช้เงินลงทุน 1,700 ล้านบาท ก่อสร้างสนามทดสอบรถยนต์บนพื้นที่ 500 ไร่ ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2560 โดยมีสนามทดสอบรถยนต์ครบวงจร รองรับการจำลองสถานการณ์ถนนที่แตกต่างกันทั่วโลก
3. เศรษฐกิจโลก

- บริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ของจีน เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำการส่งออกของจีนปรับตัวลดลง ร้อยละ 1.2 ในเดือนตุลาคม สู่ระดับ 32.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี สะท้อนให้เห็นว่าการส่งออกของจีนจะยังคงซบเซาในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ โดยระบุว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกลดลงราวร้อยละ 50.0 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2557
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า
    ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากการขยายตัวร้อยละ 1.6 ในเดือนกันยายน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับขึ้นร้อยละ 1.5
    ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรการวัดเงินเฟ้อในระดับค้าส่งปรับตัวลงร้อยละ 5.9 เมื่อเทียบรายปีในเดือนตุลาคม ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนกันยายน ที่หดตัวลงร้อยละ 5.9 เช่นกัน
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สต๊อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯ เพิ่มมากที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายเพิ่มขึ้น
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบรายเดือน โดยมีการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4  เนื่องจากได้รับผลกระทบของดอลลาร์ที่แข็งค่า ราคาน้ำมันปรับตัดลดลง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ
- สหพันธ์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐฯ (NFIB) แถลงว่า ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมทรงตัวที่ระดับ 96.1 ในเดือนตุลาคม
4. อัตราแลกเปลี่ยน

- เงินบาทอยู่ที่ 35.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  แข็งค่า 0.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 122.84 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ  แข็งค่า 0.37 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
5. ราคาน้ำมัน

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดตลาดที่ 44.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า การลงทุนอุตสาหกรรมน้ำมันมีแนวโน้มลดลงในปีนี้และปีหน้า รวมทั้งคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 0.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 47.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- เจ้าหน้าที่บริษัท บีบี คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเคลื่อนไหวในกรอบ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เป็นอย่างน้อยที่สุด เนื่องจากอุปทานน้ำมันยังคงมีมากกว่าอุปสงค์


- EIA รายงานว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม โดย EIA คาดการณ์ว่า ผลผลิตน้ำมันทั้งหมดของสหรัฐฯ จะลดลง 118,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 4.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันจะลดลงมากกว่า ร้อยละ 20 ในปีนี้ และแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงต่อเนื่องไปในปีหน้า และยังระบุว่า ราคาน้ำมันไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ก่อนช่วงปลายทศวรรษนี้ ถึงแม้มีการปรับลดการลงทุนลดลงก็ตาม
6. การเก็งกำไร

- TOCOM ส่งมอบเดือนธันวาคม 2558 อยู่ที่ 152.5 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.8 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนเมษายน 2559 อยู่ที่ 159.8 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.2 เยนต่อกิโลกรัม
- ราคาตลาด SICOM  ปิดทำการวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558
7. ข่าว

- บริษัทวิจัย เปิดเผยว่า ยอดบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่น เดือนตุลาคม ลดลงร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เหลือ 742 บริษัทซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี
- คณะกรรมาธิการด้านสุขภาพและการวางแผนครอบครัวแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า นโยบายใหม่ของจีนที่ให้ครอบครัวมีบุตร 2 คน ได้นั้น อาจจะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อีกร้อยละ 0.5 เนื่องจากจะช่วยลดอัตราส่วนการพึ่งพา
8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ

- ราคายางปรับตัวสูงขึ้นได้เล็กน้อย เพราะปริมาณยางยังคงมีน้อย เนื่องจากฝนตกต่อเนื่อง กรีดยางไม่ได้ติดต่อกัน 2- 3 สัปดาห์ ประกอบกับราคาตลาดล่วงหน้าเริ่มดีขึ้น ทำให้ราคาอาจจะฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะนี้
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดโตเกียวและราคาน้ำมัน  ประกอบกับอุปทานยางออกสู่ตลาดน้อย  เนื่องจากภาคใต้ของไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง  อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ยังเป็นปัจจัยลบต่อราคายางได้ในระดับหนึ่ง