ผู้เขียน หัวข้อ: ทหารเรียก'แกนนำยาง'ปรับทัศนคติ  (อ่าน 752 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87898
    • ดูรายละเอียด
ทหารเรียก'แกนนำยาง'ปรับทัศนคติ
วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2559 ที่มา คม ชัด ลึก

ทหารเรียก'แกนนำยาง'ปรับทัศนคติ height=347

      จนท.ทหารเรียกแกนนำ ปรับทัศนคติ-ประชุมหาทางออกแก้ปัญหาราคายาง ดึงนักวิชาการให้ความรู้ 'กิตติศักดิ์' ยันเคลื่อนไหวชุมนุมในกรอบ ก.ม. ยึด 5 ข้อเรียกร้องเหมือนเดิม   
 
 
                      11 ม.ค. 59  เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี  เจ้าหน้าที่ทหารเรียกแกนนำยางประมาณ 50 คน ปรับทัศนคติ และประชุมรับฟังความคิดเห็นหาทางออกในการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ ตามโครงการสร้างความเข้มแข็งสู่ปฏิรูปสังคมเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาล ในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่กำลังเดือดร้อน ก่อนที่จะมีการชุมนุมของเกษตรกรเพื่อเรียกร้องราคายางพารา
 
                      โดยมี พ.อ.สมเกียรติ รัตนเจริญพรชัย รอง ผอ.รมน. เป็นประธาน และได้ขอร้องให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันหาทางออก โดยไม่ให้มีการชุมนุมกดดันรัฐบาลที่กำลังหาแนวทางแก้ไขอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้มีนักวิชาการด้านการเกษตรเป็นวิทยากรบรรยายและอธิบายเกี่ยวกับตลาด ยางพาราในปัจจุบัน รวมทั้งตลาดกลางยางในกลุ่มประเทศอาเซียนและตลาดแรงงานยางพาราที่เป็นปัญหา เนื่องจากแรงงานส่วนใหญ่เป็นพม่า และกลับประเทศหลังจากยางราคาตกต่ำ
 
                      นักวิชาการส่วนใหญ่แนะแนวทางว่า สิ่งที่เกษตรกรชาวสวนยางปรับตัว คือ เพิ่มมูลค่ายางให้มากขึ้น เช่น ยางขนาดเล็กมีการปลูกพืชอายุสั้นแซมเป็นรายได้เสริม ซึ่งหากเกษตรกรชาวสวนยางปิดถนนเมื่อไหร่ สิงคโปร์ก็จะได้เปรียบ เราต้องเน้นการใช้ยางภายในประเทศให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่าการจัดทำโครงการวันนี้เป็นยุทธวิธีที่ไม่ให้แกนนำเคลื่อน ไหวระหว่างที่รัฐบาลกำลังประชุมแก้ปัญหาเรื่องยาง
 
                      ด้านนายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ นายกสมาคมเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ทางแกนนำบางส่วนยืนยันพร้อมที่จะไปร่วมการชุมนุมที่ จ.ตรัง อย่างแน่นอน โดยเป้าหมาย คือ การนัดหารือกับแกนนำจังหวัดตรังเพื่อเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล แต่ทั้งนี้การชุมนุมอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งข้อเรียกร้องของ จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงยึด 5 ข้อหลักตามมติของที่ประชุมสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้เช่นเดิม คือ
 
                      1. ขอราคากิโลกรัมละ 60 บาท และให้รัฐบาลเร่งดำเนินการโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวน ยางอย่างเร่งด่วน 2. ให้รัฐบาลยุติการขายยางพาราในสต็อก 3.6 แสนตัน โดยประกาศให้เป็น Dead Stock และใช้มาตรา 44 เพื่อบังคับให้มีการใช้ยางในประเทศต่อไป
 
                      3. ให้การยางแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนโดยเกษตรกรมีส่วนร่วมมากที่สุด เพื่อให้ พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย เป็นเครื่องมือและกลไกในการปฏิรูปยางพาราทั้งระบบ โดยให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ดการยาง ) ทันทีเมื่อเปิดประชุมคณะรัฐมนตรีและเร่งสรรหาผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทยให้ เร็วที่สุด
 
                      4. มีมติสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรมกับทุกเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบัน เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ และ 5. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทบทวนการทำงานของที่ปรึกษา นายอำนวย ปะติเส และผู้ช่วยรัฐมนตรี นางจินตนา ชัยวรรณการ เพราะไม่มีความสามารถและสร้างความแตกแยกให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ส่วนทางแกนนำจะนำเสนอข้อเรียกร้องเพิ่มเติมอย่างไรก็สามารถเพิ่มเติมได้


 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในที่ประชุมยังมีการแจกต้นเหรียงปลูกแซมในสวนยางให้กับตัวแทนเกษตรกรอีกด้วย นอกจากนั้นระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังสัมภาษณ์ นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ ปรากฏว่า นายธำรงค์ โสมจันทร์ ประธานเครือข่ายสุราษฎร์ร่วมใจ 18 จังหวัด ได้กล่าวแทรกขึ้นว่า การเคลื่อนไหวของแกนนำยางครั้งนี้เชื่อว่าจะต้องมีเงื่อนไข มีผลประโยชน์แอบแฝง ตอนนี้นายกรัฐมนตรีกำลังแก้ไขปัญหาอยู่ ทำไมไม่ให้โอกาสบ้าง ตอนที่ยางกิโลกรัมละ 80 บาท ก็เรียกร้องขอราคากิโลกรัมละ 100 - 120 บาท ก่อนที่จะหันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งตนเองรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังดีและคลุกคลีกับวงการยางมานานก่อนที่จะ เข้าร่วมการประชุมต่อ