ครม.ตั้งบอร์ดแก้ยางซื้อแสนตันให้ราคาเท่าตลาดกก.ละ35บ.ซื้อตรงไม่ผ่านองค์กรสวนยางม็อบพอใจสลายตัวให้เวลารัฐ
ม็อบยางใต้สลายตัว หลังนายกฯ ถกเครียดคณะรัฐมนตรี ก่อนมีมติให้รับซื้อยางดิบ-ยางแผ่นจากชาวสวนยางจำนวน 1 แสนตัน ในราคานำตลาดที่โลละ 35 บาท โดยตั้งโต๊ะซื้อตรงจากชาวบ้านไม่ต้องผ่านองค์กรสวนยางส่วนจะใช้งบฯ ประมาณเท่าไหร่ มอบหมายให้ "บิ๊กป้อม" ไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุป ก่อนส่งโรงงานแปรรูปผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูป จากนั้นให้กระทรวงหรือหน่วยงานรัฐมารับซื้อไปใช้ตามกำลัง ครม.ตั้งคณะกรรมการยาง 8 ราย มี "ฉัตรเฉลิม" นั่งเป็นประธาน ส่วนเครือข่ายสวนยางใต้หลายจังหวัดพอใจ ยอมสลายตัวเพื่อให้เวลารัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาตามที่แถลง
มีรายงานว่า วันนี้ (12 ม.ค.59) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้นำคณะนักเรียน นักศึกษา พร้อมศิลปินดารา นายวิวิศน์ บวรกีรติขจร (ตี๋ AF4) และ น.ส.นิภาภรณ์ ฐิติธนการ (ซานิ AF6) เข้ามอบดอกกล้วยไม้ และซีดีเพลงเทิดพระเกียรติคุณครู เนื่องในวันครู 16 ม.ค.นี้ โดยนายกฯ ได้ร่วมลงนามในบัตรคารวะครูทางออนไลน์ผ่านแท็บเล็ต เพื่อร่วมระลึกถึงพระคุณครู และมอบคำขวัญวันครูประจำปี 2559 ที่ระบุว่า "อนาคตก้าวไกล ด้วยครูดี มีคุณภาพ" ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับเด็กนักเรียนว่า "ขอให้คิดถึงครูและให้กำลังใจครู เพราะทุกคนเหนื่อย"
สำหรับวาระการประชุม ครม.ที่น่าสนใจในวันนี้ ได้แก่ วาระเร่งด่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะนำรายชื่อบอร์ดคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เสนอต่อ ครม. รวมถึงนำเสนอแผนเร่งด่วนในการแก้ปัญหาราคายางพารา
นอกจากนี้ 8 กระทรวง คือ กระทรวงคมนาคม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะรายงานวาระเร่งด่วนเรื่องความต้องการว่า จะช่วยรับซื้อยาง เพื่อนำไปใช้ในหน่วยงานภายใต้ความรับผิดชอบ ของแต่ละกระทรวงได้อย่างไร เช่น กระทรวงเกษตรฯ จะเสนอแผนการใช้ยางพารา 25,580.34 ตัน ยางแห้ง วงเงิน 9,763 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณปกติ เพื่อใช้ยางพาราประมาณ 434 ตัน ยางแห้ง วงเงินประมาณ 1,026 ล้านบาท และงบประมาณกลาง เพื่อใช้ยางพาราประมาณ 25,100 ตัน ยางแห้ง วงเงินประมาณ 8,700 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน จะมีการรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับการนำยางพารา มาใช้ในการก่อสร้างและซ่อมบำรุงถนนที่ชำรุดเสียหาย ตามข้อร้องเรียนของประชาชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในปี 2559 และจะพิจารณางานในปีงบประมาณ 2560-2561 ด้วย โดยในเบื้องต้นในปี 2559 คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะนำยางพารามาใช้ในโครงการเหล่านี้ประมาณ 20,000 ตันและจะพิจารณาเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราอีก ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม จะร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอการนำยางพาราไปใช้ทำพื้นยางสนามกีฬา สนามเด็กเล่น เช่นกัน โดยตั้งงบฯ ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย โดยสามารถตั้งได้บางส่วนจากทั้งหมด 15 คน เพราะยังติดปัญหาของตัวแทนบางกลุ่ม โดยเบื้องต้นที่ประชุมมีมติที่รับซื้อยางกับเกษตรกรโดยตรง 100,000 ตันในราคาที่สูงกว่าปัจจุบัน ขณะนี้ราคาตลาดยางแผ่นอยู่ที่กิโลกรัมละ 35 บาท ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ในช่วง 3 เดือน ก่อนปิดกรีด ทั้งนี้จะไม่รับซื้อจากสหกรณ์การเกษตร แต่จะรับซื้อโดยตรงจากชาวสวนยาง
นายกฯ ชี้แจงอีกว่า มาตรการนี้จะเป็นการรับซื้อในราคานำตลาด โดยรัฐบาลจะนำผลผลิตยางเหล่านี้เข้าสู่โรงงานแปรรูปยางทันที เพื่อส่งมอบให้กับหน่วยงานที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ยางพาราแต่ละประเภท มารับไป ส่วนจะใช้งบฯ ประมาณเท่าไหร่นั้นได้มอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปต่อไป
สำหรับประเทศไทยมีปริมาณยางทั้งหมด 4.7 ล้านตัน แต่ใช้ยางเพียง 1.4 ล้านต้น ดังนั้นจากนี้จะต้องเพิ่มการใช้ยางมากกว่า 30-50% โดยจะเร่งสร้างโรงงานให้มากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ ทั้งที่นอนทหาร ถุงมือยาง ส่วนข้อเสนอให้เพิ่มปริมาณยางในการทำถนนเกิน 5% นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องสิ้นเปลื้องงบประมาณ ซึ่งต้องปรับงบประมาณภายใน มากกว่าการมาขอเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จำนวน 8 คน ดังนี้ 1.พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เป็นประธานกรรมการ 2.นายประสิทธิ์ หมีดเส็น ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง 3.นายสังข์เวิน ทวดห้อย ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง 4.นายเสนี จิตตเกษม ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง 5.นายธีรพงศ์ ตันติเพชราภรณ์ ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง 6.นายสาย อิ่นคำ ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง 7.นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้ประกอบกิจการยางที่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้า 8.นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ผู้แทนผู้ประกอบกิจการยางที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตอุตสาหกรรมยาง
วันเดียวกัน ที่บ้านพักนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.ปชป. ถนนสายสนามบินใน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีแกนนำเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ จ.สงขลา มาหารือเพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งต่อไปยังรัฐบาล เพื่อหาแนวทางแก้ไขโดยเร่งด่วน มีนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว ประธานสมาพันธ์เกษตรกร จ.สงขลา และอดีตเป็น ส.ส.ปชป. นายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ อดีต ส.ส.ปชป. นายปรีชา สุขเกษม ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกร จ.สงขลา นายกาจบัณฑิต รามมาก ตัวแทนเกษตรกร จ.สงขลา เพื่อร่วมประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคายาง
นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.ปชป. จ.สงขลา กล่าวภายหลังทราบมติ ครม.ที่ให้รับซื้อยาง จำนวน 1 แสนตันจากชาวสวนยางโดยตรง เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นว่า พอใจกับมาตรการดังกล่าว และให้เวลารัฐบาลดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการชุมนุมประท้วงแน่นอน
ขณะที่กลุ่มเครือข่ายยาง อ.ชะอวด ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตรัง ต่างพอใจกับมาตรการดังกล่าว ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน
บ้านเมือง (Th)