ผู้เขียน หัวข้อ: ผบ.สส.ยืนยันไม่ประมาทกลุ่มก่อร้าย-การข่าวยังไม่พบผิดปกติ  (อ่าน 664 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87798
    • ดูรายละเอียด
ผบ.สส.ยืนยันไม่ประมาทกลุ่มก่อร้าย-การข่าวยังไม่พบผิดปกติ
วันนี้ (11:25 น.) ที่มา INN


ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ย้ำ เร่งช่วยเกษตรกรชาวสวนยางและภัยแล้ง ยัน ไม่ประมาทกลุ่มก่อร้าย จับตาIS  ติดตามสถานการณ์24 ชม. ด้าน โฆษก ตร. เผย เข้มรับมือเหตุร้าย ขณะการข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติ


พล.อ.สม หมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวภายหลังการเป็นประธานในการจัดงานวันกองทัพไทยประจำปี 2559 ถึงหน้าที่หลักของทหาร ว่า ในรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า หน้าที่หลักของทหาร คือ การพิทักษ์ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ป้องกันประเทศ พัฒนาประเทศ ช่วยเหลือประชาชน และรักษาความสงบภายในประเทศ ในยามที่ประเทศชาติ มีความสงบสุขก็ยังคงมีการฝึกทหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กองทัพมีความทันสมัย และสร้างความปึกแผ่นของเหล่าทัพ ส่วนบทบาทกองทัพในอนาคตนั้น ทางกองทัพได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 5 - 20 ปี สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงมีการปรับปรุงโครงสร้าง และขีดความสามารถอยู่เสมอ

ทั้งนี้ พล.อ.สมหมาย กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งว่า มีการประชุมในเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2559 โดยจะต้องมีการเตรียมการช่วยเหลือประชาชนมากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องการแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคมากถึง 30 - 40 ล้านลิตร และการขุดเจาะน้ำบาดาล ส่วนการพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนใน ปัญหาราคายางพารา นั้น ทางกองทัพบก ได้จัดกำลังพลในการดูแลการซื้อยางพาราแผ่นดิบกับเกษตรกรชาวสวนยาง ในกิโลกรัม 45 บาท จำนวน 100,000 ตัน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ตามนโยบายของรัฐบาล


นอกจากนี้ พล.อ.สมหมาย ยังกล่าวถึงที่มีหลายฝ่ายออกมากังวลกับกลุ่มไอเอส ในขณะนี้ว่า ในด้านการข่าวและความมั่งคงมีการติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่เคยประมาท พร้อมทั้งทำความเข้าใจว่า เราไม่เคยสร้างความเดือดร้อน และไม่ชอบสร้างความเดือดร้อนให้กับใครเช่นเดียวกัน



โฆษกตร.เข้มรับมือเหตุร้ายหลังเหตุระเบิดตปท.
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือสั่งการให้ทุกกองบัญชาการ เตรียมความพร้อม และรับมือการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในต่างประเทศ ทั้ง ฝรั่งเศส ตุรกี และล่าสุดที่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเชีย สร้างความเสียหายจำนวนมากนั้น เป็นการเฝ้าระวังของฝ่ายความมั่นคงตามวงรอบ โดยให้ลงไปดูลึกในรายละเอียด หาความเชื่อมโยงของกลุ่มต่าง ๆ ขณะที่การข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ก็ไม่ประมาท มีการเฝ้าระวัง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นับถือศาสนาอิสลาม หลังจากเกิดที่กรุงจากาตาร์ เนื่องจากต้นเหตุที่เกิดขึ้นทั้งสถานที่ และผู้อยู่เบื้องหลังที่ออกมายอมรับ
ทั้งนี้ รองโฆษกสำนักงานตำราจแห่งชาติ กล่าวว่า กลุ่มชาวอิสลามที่อาศัยในไทยไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ แต่ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มคนเหล่านั้น เพื่อสอบถามว่ามีข้อมูลเบาะแสมาวิเคราะห์ วางแผนแนวทางการป้องกันเหตุในประเทศไทย ขณะเดียวกันจากการพูดคุยส่วนใหญ่ ยังมีความเชื่อมั่นในการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่