ผู้เขียน หัวข้อ: เวทีเสวนายางพาราบึงกาฬ ยุคปลาเร็วกินปลาช้า เกษตรกรต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด!  (อ่าน 654 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87798
    • ดูรายละเอียด
เวทีเสวนายางพาราบึงกาฬ ยุคปลาเร็วกินปลาช้า เกษตรกรต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด!
วันที่: 22 ม.ค. 59 เวลา: 17:27 น.



  3Q2A4379 (2) height=400     
วันที่ 22 มกราคม เมื่อเวลา 13.30 น. ในงานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ ที่บริเวณเวทีปราชญ์ชาวบ้านจัดเสวนาเรื่อง ?ยางพารา การพัฒนาอย่างยั่งยืนในบริบทของโลกไร้พรมเเดน? โดย นายบัณฑิต หลิมสกุล เลขาธิการกรอบความร่วมมือเอเซีย (ACD) กล่าวว่า เดิมพื้นฐานเห็นยางจากภาคใต้มาโดยตลอด วันนี้ได้มาเห็นยางที่ภาคอีสานอีกเเห่ง ซึ่งยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย สาเหตุเพราะประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกยางเป็นอันดับหนึ่งของโลก เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้เเต่มักจะลืมไปว่าเราก้าวสู่การเป็นประเทศผู้ผลิตยาง อันดับหนึ่งของโลกตั้งเเต่ปี 2534 โดยส่วนใหญ่เราจะส่งออกไปต่างประเทศ ปริมาณยางพาราของโลก อันดับ 1 เป็นยางจากประเทศไทย 30.6 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 เป็นยางจากอินโดนีเซีย 26.6 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นยางพาราจากประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย เวียดนาม มาเลเซีย เกษตรกรเป็นผู้ที่ทำให้เราเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่งนำรายได้เข้าสู่ประเทศ จำนวนมาก เราผลิตยางใช้ในประเทศ 14 เปอร์เซ็นต์ ส่งออกมากถึง 86 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่ายางพารานำรายได้เข้าประเทศมากถึง 86 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากยางพารา ดังนั้นความสำคัญของยางพาราประการสำคัญที่ทุกคนลืมนึกถึงคือ ส่งออกอันดับหนึ่ง เเละนำรายได้เข้าประเทศ


?เเต่ปัญหาขณะนี้คือการปลูกยางพารา ตามเศรษฐศาสตร์เรียกว่าการผลิตที่มากกว่าการบริโภค เนื่องจากประเทศไทยเริ่มปลูกกันมากขึ้น อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้านก็หันมาปลูกยางพารากันเยอะ ผลผลิตยางพาราจึงล้นตลาด รัฐบาลจึงจำเป็นต้องออกมารการชั่วคราวเเละฉุกเฉินออกมา ซึ่งไม่ได้เป็นการช่วยอย่างยั่งยืน แค่ให้ชาวสวนยางอยู่ต่อไปได้ ผลคือนโยบายที่ออกมาทำให้คนซื้อยางตื่นตัวขึ้น กลัวว่ารัฐบาลจะซื้อยางไปหมด ต่างประเทศจึงเร่งสั่งซื้อยางพารา เช่น ประเทศมาเลเซียที่เคยเป็นผู้ผลิตยางอันดับ 1 มาก่อน วันนี้เขาเป็นผู้บริโภครายหนึ่ง หลังมีข่าวออกมาก็เร่งสั่งออเดอร์ยางพาราจากไทย เพราะกลัวยางขาดตลาด การกระทำของรัฐบาลจึงไม่ใช่การเเทรกเเซง บิดเบือนตลาด เเต่รัฐบาลกำลังทำในช่วงนี้คือการชี้นำตลาดให้คนอื่นเร่งซื้อยาง ซึ่งเป็นผลดีกับเกษตรกร? นายบัณฑิตกล่าว


นายบัณฑิตกล่าวอีกว่า ถ้าดูจากสถิติของยางพาราจะเห็นว่ามันมีช่วงเเนวโน้มความต้องการของตลาด มากกว่าการผลิตอยู่ตลอดอาจจะมีบางช่วงที่ความต้องการใช้ยางพาราน้อยกว่าการ ผลิต เเต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ เเต่หลายปีที่ผ่านเป็นช่วงที่มีปริมาณยางมากกว่าความต้องการ ทำให้ยางเหลือเเต่ก็ทำนายไว้ว่าหลังปี 2560 ปริมาณการบริโภคยางจะกลับมาเพิ่มขึ้น เเต่ความเปลี่ยนเเปลงช่วงนี้คือช่วงนี้จะต้องปรับตัว


 <blockquote>?ถ้าเราไม่ปรับตัวเราก็จะอยู่ในฐานะผู้ขายวัตถุดิบต่อไป เรื่อยๆในอดีตที่ผ่านมาเราคิดว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เเต่ยุคนี้ปลาเร็วกินปลาที่ช้ากว่า ดังนั้นปลาตัวใหญ่ถ้าช้าอุ้ยอ้ายไม่ยอมเปลี่ยนเเปลงก็อาจจะถูกปลาที่ตัวเล็ก กว่ากินได้ ดังนั้น เราจะต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความเปลี่ยนเเปลง ความไม่เเน่นอนที่จะเกิดขึ้น คนที่รู้จักนำความเปลี่ยนเเปลงมาใช้ประโยชน์คือคนที่สามรถไปต่อได้ เพราะโลกของความเปลี่ยนเเปลงมันมีอุปสรรค แต่ก็ขึ้นอยู่กับเราจะมองคววามเปลี่ยนแปลงเเล้วเป็นอุปสรรคหรือโอกาส? นายบัณฑิตกล่าว

</blockquote> นายบัณฑิตกล่าวว่า ถ้าดูจากการผลิตยางในขณะนี้ บริโภคเฉพาะภายในประเทศก็ยังช่วยได้ไม่พอ เพราะที่ผ่านมาเราส่งออกมากถึง 86 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าถ้าขายไม่ออก หรือราคาโลกผันผวนก็จะมีปัญหาทันที ฉะนั้นจำเป็นต้องพยายามปรับปรุงตัวเอง อย่างมาเลเซียที่วันนี้เขาไม่ส่งออกยาง เเต่เป็นผู้นำเข้ายางดิบจากประเทศไทย เพื่อนำไปเเปรรูปเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม เเทนที่จะขายยางดิบเขาขายเป็นถุงมือ ถุงยาง เป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ นี่เป็นสิ่งที่เขาพยายามจะยกฐานะเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ว่ายางโลกจะตกลงหรือผันผวนเเค่ไหนก็ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศ มาเลเซีย นี่เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องศึกษาอย่างมาก


?แต่การผลิตสินค้าจะต้องมีตลาดมารองรับ สำหรับเราถ้าจะทำแบบมาเลเซียก็ต้องแข่งกับเขา ซึ่งดูท่าจะยาก คิดว่าต้องผลิตสินค้าที่ยังไม่มีใครผลิต อย่างหมอนยางพารา ที่นอนยางพารา ก็ถือว่าเป็นสินค้าใหม่ๆ ตอนนี้ที่ขายดีมาก ถ้าไปดูที่สนามบินในภาคใต้จะมีคนจีนมาเที่ยว ซื้อหมอน ซื้อที่นอนยางพารากลับไปเยอะมาก เพราะของเรามีคุณภาพดีกว่าเเละมีราคาถูกกว่า อนาคตจำนวนที่เขาจะซื้อจะเพิ่มมากขึ้น เพราะนโยบายจีนเปลี่ยนแล้ว จากเดิมมีลูกคนเดียว เเต่ต่อไปคนจีนจะมีลูกเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นเราต้องมองเเล้วว่าตลาดจีนจะขยายตัวมากขึ้น นอกจากนี้อินเดียก็เป็นอีกประเทศที่มีแนวโน้มการบริโภคยางพาราเพิ่มมากขึ้น เพราะตอนนี้อินเดียเริ่มเปิดประเทศ และเริ่มมีเงินมากขึ้น รวมถึงนโยบายรถราคาถูกจะทำให้อัตราการบริโภคยางพาราของอินเดียเพิ่มขึ้น ทั้งหมดเป็นตลาดที่เราจะต้องเริ่มมองกันในวันนี้? นายบัณฑิตกล่าว