เกษตรกรตราดลดพื้นที่ปลูกยางพารา หันปลูกพริกขี้หนู-แตงกวารายได้สูงโดย MGR Online26 มกราคม 2559 14:45 น. (แก้ไขล่าสุด 26 มกราคม 2559 14:51 น.)
ตราด - เกษตรกรจังหวัดตราด ลดพื้นที่ปลูกยางพารา หันปลูกพริกขี้หนู และแตงกวาสร้างรายได้สูง เฉลี่ยเดือนละ 30,000-40,000 บาท แนะเกษตรกรปลูกพืชหลากหลายช่วยกระจายความเสี่ยงจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
นายธวัชชัย เสนะโกวร เกษตรกรหมู่ที่ 3 บ้านพนมพริก ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ได้ลดพื้นที่ปลูกยางพารา หันมามาปลูกพริกขี้หนู และแตงกวา แซมต้นเงาะที่ปลูกใหม่ สามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 30,000-40,000 บาทต่อเดือน
สาเหตุเนื่องจากปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำ จึงมีแนวคิดในการปรับเปลี่ยนอาชีพมาปลูกพืชผักที่สามารถทำให้มีรายได้อย่าง ต่อเนื่อง โดยหันมาทำสวนเงาะ พร้อมทั้งปลูกพริกขี้หนู และแตงกวา แซม แทนการทำสวนยางพาราบนเนื้อที่ 4 ไร่ และในพื้นที่อีก 4 ไร่ ปลูกสับปะรดโรงงานแซมต้นเงาะ ทั้งนี้ ในส่วนของแตงกวา มีรายได้รุ่นแรกจากที่ปลูก 4 ไร่ ได้เงิน 70,000 บาทเศษ ส่วนรุ่นที่ 2 แตงกวา 1 ไร่ สร้างรายได้ 15,000 บาท รวมกันแล้วมีรายได้มากกว่าการจำหน่ายยางพาราทั้งปี
ส่วนของพริกขี้หนู เก็บผลผลิตรุ่นแรก 250 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 75 บาท มีรายได้ประมาณ 18,000 บาท แต่พริกจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสามารถเก็บผลผลิตได้ถึง 5-6 เดือน หรือจนถึงช่วงเดือนมิถุนายน 2559 คาดว่าในพื้นที่ 4 ไร่ จะสามารถเก็บผลผลิตได้เฉลี่ยเดือนละ 1 ตัน หากราคาขาย 30-40 บาทต่อกิโลกรัม จะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 30,000-40,000 บาท
นายธวัชชัย เสนะโกวร กล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกยางพารามาเปลี่ยนเป็นปลูกเงาะ และพืชผักพื้นบ้านมีหัวใจอยู่ที่การปรับปรุงดิน เนื่องจากพื้นที่ที่เคยปลูกยางพาราจะมีสภาพดินที่เป็นกรด จะต้องไถเพื่อพลิกหน้าดิน และใช้โดโลไมท์ 15 - 0 - 0 ในการบำบัดสภาพดินที่เป็นกรด และใช้เชื้อไตรโครเดอร์มา เป็นตัวช่วยในการกำจัดเชื้อราในดิน
อย่างไรก็ตาม อยากขอแนะนำให้เพื่อนเกษตรกรหันมาปลูกพืชหลากหลาย เพราะสามารถช่วยเกษตรกรในการกระจายความเสี่ยงจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ มีรายได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะจำพวกผักที่ทุกครัวเรือนต้องบริโภค และให้ผลตอบแทนสูงกว่าการปลูกยางพาราในสถานการณ์ปัจจุบัน
