สนช.จี้กระทรวงพาณิชย์สอบ3บริษัทยักษ์ใหญ่ได้ประโยชน์จากยางพาราตกต่ำ
29 มกราคม 2559 เวลา 14.37 น.โพสต์ทูเดย์
วันที่ 29 ม.ค. การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่ 1 เป็นประธาน โดยได้พิจารณากระทู้ถามเรื่อง ปัญหาผลิตภัณฑ์จากยางพาราที่มีราคาสูงกว่าต้นทุนการผลิตที่แท้จริงของพ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต สมาชิกสนช. ถามนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์
โดยพ.ต.ท.พงษ์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยางพารามีราคาตกต่ำแต่เหตุใดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพารา คือ ยางรถยนต์ จึงมีราคาแพงมาก กรมการค้าภายในในฐานะเป็นเลขาของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ถือเป็นกลไกแต่ทำไมราคาน้ำยางจึงไม่กระเตื้องขึ้น
?อยากให้กระทรวงพาณิชย์ยกเลิกการราคาควบคุมที่ประกาศเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 58 รวมทั้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เข้ามาตรวจสอบผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการส่งออกยาง ซึ่งหาข้อมูลได้ที่กรมศุลกากร เป็น 3 บริษัทค่ายใหญ่ วันนี้ เขาได้กำไรมหาศาลกี่100%?พ.ต.ท.พงษ์ชัย กล่าว
ทั้งนี้ ราคายางตกจะไปโทษเป็นเพราะ 5 เสือหรือยางล้นตลาดประเทศจีนก็ไม่ใช่ ต้องไปแกะเส้นทาง 3 เจ้าใหญ่นี้ว่าไปร่วมกำหนดราคากลางของยางพาราจริงหรือไม่ กระทรวงพาณิชย์จะต้องมีบทบาท อย่าไปโทษกระทรวงเกษตรฯหรือกระทรวงอื่น ซึ่งถ้าทำได้ พรุ่งนี้มะรืนนี้ราคายางจะสูงขึ้นได้มากกว่า45 บาท โดยที่รัฐบาลไม่ต้องนำเงินไปช่วยเหลือ พฤติกรรมเช่นนี้จะต้องเรียกมาคุยให้มันชัดเจน แล้วนำกำไรที่ได้มาเข้ากองทุนเพื่อช่วยชาวสวนยาง
ด้านนางอภิรดี กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์มียางพาราเป็นส่วนผสมเพียง18%ยางสังเคราะห์ 17% และอื่นๆ รวมทั้งค่าแรง ยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ตรวจตราและให้ความสำคัญกับราคายางรถยนต์ แต่ยางพาราเป็นเพียงแค่ส่วนผสมส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังหารือกับผู้ประกอบการยางรถยนต์และเมื่อดูแนวโน้มคุยกันได้น่าจะลดราคายางรถยนต์ลงได้ ส่วนราคาตลาดโลกกำหนดโดยสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และยุโรป เพราะมีตลาดซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งไทยก็รู้ปัญหานี้ดี ในส่วนตลาดซื้อขายของกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้โอนมอบให้ตลาดหลักทรัพย์แต่เชื่อว่าในอนาคตตลาดซื้อขายล่วงหน้าไทยจะมีบทบาทมากขึ้น ส่วนตัวรับปากว่า จะไปศึกษาเส้นทางการเงินของทั้ง 3 บริษัทใหญ่ดังกล่าว