วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
ปัจจัย
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
- ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคใต้มีฝนตกเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง
2. การใช้ยาง
- สมาคมผู้ผลิตรถยนต์อินโดนีเซียประเมินว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ปี 2559 จะเติบโตร้อยละ 5.0 เป็น 1.05 ล้านคัน ขณะที่ปีที่ผ่านมามียอดจำหน่าย 1.01 ล้านคัน ลดลงร้อยละ 16.0 เมื่อเทียบกับปี 2557 และส่งออกรถยนต์ 2.07 แสนคัน เพิ่มขึ้น 5,000 คัน
3. เศรษฐกิจโลก
- ผลสำรวจจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) พบว่าภาคบริการเดือนมกราคมชะลอตัวลง ทั้งนี้ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ 53.3 ลดลงจาก 55.8 ในเดือนธันวาคม
- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนตั้งเป้าที่จะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 6.5 - 7.0 ในปี 2559
- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า มูลค่าการค้าภาคบริการต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.136 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2558 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศเดือนมกราคมลดลง ท่ามกลางราคาหุ้นที่ลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และการลดลงของราคาน้ำมัน ซึ่งทางภาครัฐได้ปรับลดประเมินความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
- มาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยผลสำรวจเดือนมกราคม ดังนี้
เศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวลง บ่งชี้ว่าภาวะผันผวนในตลาดการเงินโลกกำลังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจในภูมิภาค ทั้งนี้มาร์กิตระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งใช้วัดกิจกรรมทั้งภาคการผลิตและบริการในเขตยูโรโซนลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 536 จาก 54.3 ในเดือนธันวาคม
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการฝรั่งเศสปรับขึ้นสู่ระดับ 50.3 ซึ่งสูงสุดในรอบ 2 เดือน จาก 49.8 ในเดือนธันวาคม
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเยอรมันปรับตัวลดลงแตะ 55.0 จาก 56.0 ในเดือนธันวาคม
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการอิตาลีลดลงแตะ 53.6 จาก 55.3 ในเดือนธันวาคม
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการจีนเพิ่มขึ้นแตะ 52.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จาก 50.2 ในเดือนธันวาคม
4. อัตราแลกเปลี่ยน
- เงินบาทอยู่ที่ 35.64 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.18 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 118.09 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 1.54 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
5. ราคาน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนมีนาคม 2559 ปิดตลาดที่ 32.28 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากที่รัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเปิดช่องทางในการเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เพื่อร่วมมือกันกระตุ้นราคาน้ำมัน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น และสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ระบุว่าสต๊อคน้ำมันสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนมีนาคม 2559 ปิดที่ 35.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.32 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต๊อคน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 7.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 502.7 ล้านบาร์เรล
6. การเก็งกำไร
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนมีนาคมอยู่ที่ 150.5 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.5 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 157.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 3.5 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 121.8 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 2.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
7. ข่าว
- ผลสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่าเดือนมกราคมภาคเอกชนสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเดือนธันวาคม แต่สูงกว่าคาดการณ์ที่ 195,000 ตำแหน่ง
8. ข้อคิดเห็นของประกอบการ
- ราคายางน่าจะทรงตัวหรือสูงขึ้นได้เล็กน้อย เพราะปริมาณผลผลิตที่ลดลงตามฤดูกาล ทำให้ผู้ประกอบการเร่งซื้อ ขณะที่ตลาดต่างประเทศค่อนข้างเงียบ โดยเฉพาะผู้ซื้อจากจีนชะลอการซื้อในช่วงหยุดเทศกาลตรุษจีน
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ โดยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และปริมาณยางที่ออกสู่ตลาดน้อย เพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูยางผลัดใบ ขณะที่ราคายางมีปัจจัยลบจากเงินเยนและเงินบาทแข็งค่า ประกอบกับนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก หลังจากสหรัฐฯ จีน และยุโรป ยังคงเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในเดือนมกราคม
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา