ผู้เขียน หัวข้อ: กลืนเลือด! เครือข่ายสวนยาง ชร.เมินโครงการรัฐชี้ไกล-ให้น้อยไม่คุ้มหันประมูลขายเอง  (อ่าน 857 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87756
    • ดูรายละเอียด
กลืนเลือด! เครือข่ายสวนยาง ชร.เมินโครงการรัฐชี้ไกล-ให้น้อยไม่คุ้มหันประมูลขายเอง
โดย MGR Online


5 กุมภาพันธ์ 2559 13:47 น.

เชียงราย - เครือข่ายสวนยางเชียงรายไม่สนโครงการรับซื้อยางของรัฐเหตุสถานที่รับซื้อ ห่างไกลจากพื้นที่ปลูกไม่คุ้มกับค่าขนส่งอีกทั้งราคาและปริมาณที่รับซื้อก็ น้อยเกินไป ระบุหันไปใช้วิธีรวมตัวแล้วประมูลขายกันเองคุ้มกว่า
       
        วันนี้ (5 ก.พ.) จากกรณีการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดรับซื้อยางพาราเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางตามโครงการส่งเสริมการใช้ ยางในหน่วยงานรัฐ (100,000 ตัน) ในราคาที่สูงและเป็นธรรมนั้น สำหรับทาง กยท.เชียงราย ได้ประชาสัมพันธ์การรับซื้อไปยังกลุ่มเกษตรที่เป็นสมาชิก กยท.ทั้งเรื่องการซื้อยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 กิโลกรัมละ 45 บาท น้ำยางสดกิโลกรัมละ 42 บาท และยางก้อนถ้วยกิโลกรัมละ 41 บาทหรือหากเปียกราคาจะอยู่ราว 21-23 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ๆ ละ 10 กิโลกรัม รวมแล้วไม่เกิน 150 กิโลกรัม แต่หากเป็นยางก้อนถ้วยเปียกน้ำหนักยางโดยประมาณ 250-270 กิโลกรัม
       

       โดยรับซื้อตั้งแต่วันที่ 1-5 ก.พ.โดยวันที่ 1 ก.พ.รับซื้อที่บ้านช่องลม ม.3 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย และที่บริษัทเชียงราย ยางพาราเซ็นเตอร์ จำกัด ม.10 ต.แม่ลอย อ.เทิง วันที่ 2 ก.พ.ที่บริษัทเชียงราย ยางพาราเซ็นเตอร์ จำกัด วันที่ 3 ก.พ.ที่บ้านช่องลมและบริษัทเชียงราย ยางพาราเซ็นเตอร์ จำกัด วันที่ 4 ก.พ.กลุ่มร้องหัวฝาย ม.12 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ และบริษัทเชียงราย ยางพาราเซ็นเตอร์ จำกัด และวันที่ 5 ก.พ.รับซื้อที่กลุ่มป่าตึง ม.5 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน กลุ่มห้วยไร่ ม.1 ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง และบริษัทเชียงราย ยางพาราเซ็นเตอร์ จำกัด



อย่างไรก็ตามนายสุ วิทย์ ใหม่ธิ ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพารา จ.เชียงราย กล่าวว่าการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรตามโครงการดังกล่าวคงไม่สามารถช่วยเหลือ เกษตรกรระดับฐานรากได้อย่างเต็มที่ เพราะพื้นที่ จ.เชียงราย มีพื้นที่ที่ปลูกยางพารารวมกันทั้งหมดประมาณ 500,000 ไร่ แต่เป็นเกษตรกรระดับฐานรากที่แท้จริงประมาณ 20,000 ไร่ ที่เหลือเป็นของกลุ่มทุนรายใหญ่ต่างๆ สำหรับพื้นที่ของเกษตรกรก็อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเก็บผลผลิตได้แล้วประมาณ 100,000 ไร่ ทั้งหมดกระจายไปอยู่ทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดและเฉพาะที่อยู่ในเครือข่ายของตนก็มีประมาณ 50,000 ไร่แต่ละรายเก็บน้ำยางได้วันละประมาณ 2-3 กิโลกรัมต่อไร่ซึ่งถือว่ามีปริมาณมาก
       
        "เมื่อพิจารณาจากจำนวนจุดที่รับซื้อซึ่งส่วนใหญ่จะรับซื้อกันที่เขต อ.เทิง ถือว่าไกลจากแหล่งปลูกของเกษตรกรมาก และเมื่อยิ่งเปรียบเทียบกับปริมาณที่ กรีดน้ำยางได้แต่กลับถูกกำหนดให้นำไปขายได้เพียงรายละไม่เกิน 150 กิโลกรัม จึงถือว่าไม่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จุดรับซื้อและต้องขนผลผลิตเพียงน้อยนิดไปขาย ทางออกจึงควรเพิ่มจุดรับซื้อให้กระจายทั่วพื้นที่มากกว่านี้"
       
        ดังนั้น ในวันที่่ 6 ก.พ.นี้ เครือข่ายจะมีการรวบรวมผลผลิตเพื่อนำมาประมูลราคาสำหรับช่วยเหลือกันภายใน กลุ่มเหมือนเดิม โดยกำหนดจุดประมูลกันที่ ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง คาดว่าจะมียางก้อนถ้วยรวมกันได้ประมาณ 20 ตัน ราคาน่าจะได้กิโลกรัมละประมาณ 15 บาท แต่ก็ถือว่าคุ้มทุนกว่าเพราะกำหนดจุดรับซื้อเองได้ทำให้ขนส่งกันไม่ไกลเกิน ไป