ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ผลิตยาง SBR ในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือจะเสนอขึ้นราคาในเดือน พ.ค. อย่างน้อย 35 ยูโรต่อตัน  (อ่าน 1157 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87701
    • ดูรายละเอียด
ผู้ผลิตยาง SBR ในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือจะเสนอขึ้นราคาในเดือน พ.ค. อย่างน้อย 35 ยูโรต่อตัน




จากข้อมูลแหล่งซื้อขาย ยางระบุว่า ผู้ขายและผู้ผลิตยางสไตรีนบิวทาไดอีน (SBR) ในทวีปยุโรปกำลังหาทางที่จะขึ้นราคายางอย่างน้อย 35 ยูโรต่อตัน เพื่อให้ได้กำไรมากกว่า 500 ยูโรต่อตัน เพื่อให้มากกว่าบิวทาไดอีนที่ทำได้ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา


    ผู้ ผลิตในยุโรปต้องการกำไรที่มากกว่า 500 ยูโรต่อตัน ซึ่งการจำหน่ายยางสไตรีนบิวทาไดอีนในเดือนเมษายนมีกำไรอยู่ที่ 515 ยูโรต่อตัน แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณความต้องการใช้ยาง SBR ทั่วโลกในขณะนี้มีน้อยมาก


    ผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของ ยุโรปกล่าวว่า พวกเขาต้องการให้ราคาขาย SBR ของเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนอีก 50 ยูโร เนื่องจากบิวทาไดอีมีน้อยในปัจจุบัน ในขณะที่ผู้ค้ารายอื่นๆ กล่าวว่าราคายาง SBR ควรเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 35 ยูโรต่อตัน


    ใน เดือนพฤษภาคม บิวทาไดอีนเขตตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปมีราคาขายอยู่ที่ 620 ยูโรต่อตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 35 ยูโร ส่วนยาง SBR เกรด 1500 และ 1502 ซึ่งเป็นยางสังเคราะห์ที่ใช้มากที่สุดในโลก 2 เกรด มีราคาขายอยู่ที่ 1,100 ยูโรต่อตัน จากการประเมินเมื่อเทียบกันสัปดาห์ต่อสัปดาห์พบว่าราคายางเพิ่มขึ้นถึง 100 ยูโร เมื่อเทียบกับการประเมินที่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม


    จาก ข้อมูลของผู้ผลิตระบุว่า ตลาดบิวทาไดอีนในยุโรปขณะนี้มีปริมาณบิวทาไดอีนแทบไม่เพียงพอ เนื่องจากมีการส่งบิวทาไดอีนไปยังทวีปเอเชียอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ง่ายนักที่ผู้ผลิต SBR จะหาแหล่งของบิวทาไดอีนเพื่อใช้ในการผลิตได้


    บิ วทาไดอีนจากยุโรปราว 50,000 ตันถูกส่งไปขายยังทวีปเอเชียตลอดช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เอเชียถือเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้วัตถุดิบจำพวกสารโอเลฟินมาก เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นคัดแยกที่มีอยู่ภายในประเทศ


    จาก ข้อมูลด้านการตลาดของสำนักวิจัย Platts แสดงให้เห็นว่า การกระจายสินค้าทั้งยาง SBR และบิวทาไดอีนตลอดช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้นมีปริมาณสูง แต่ในช่วง 4 เดือนแรกยังถือต่ำกว่าปีที่แล้ว โดยมูลค่าจากการจำหน่าย SBR เกรด 1500 และบิวทาไดอีนลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าเฉลี่ย 454 ยูโรต่อตัน ลดลงจาก 529 ยูโรต่อตันในปีก่อน

    (ที่มา: http://rubberjournalasia.com, 02/05/2016)