ผู้เขียน หัวข้อ: ยางแผ่นดิบราคาผันผวน แนะเถ้าแก่ "ไม่สต๊อก"  (อ่าน 780 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87701
    • ดูรายละเอียด
ยางแผ่นดิบราคาผันผวน แนะเถ้าแก่ "ไม่สต๊อก"       


สภาปฏิรูปวงการยางไทยเตือนสถานการณ์ยางพาราไทยยังผันผวน ทำพ่อค้ายางแผ่นดิบรายเล็ก-กลางเจ๊งระนาว ขณะที่พัทลุงปิดกิจการแล้ว 15 ราย ด้านชาวสวนยางรับอานิสงส์ตัดค่าบริหารพ่อค้าคนกลางขายได้ราคาดีขึ้น คาดขาขึ้นยังต้องรออีก 3 ปี ส่วนราคาน้ำยางสดยังดี ซื้อขายวันต่อวัน


   นาย เงินวสวัตติ์ ลิ่มทวีสกุล ประธานสภาปฏิรูปวงการยางไทย และเกษตรกรชาวสวนยาง จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาชิกสภาปฏิรูปวงการยางไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมดกว่า 1,000 คนแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่จากเดิมมีเพียง 700 คน โดยที่เข้ามาส่วนใหญ่เพื่อต้องการทราบข่าวการเคลื่อนไหวของวงการยางและราคา ยาง ซึ่งต้องเตือนว่าขณะนี้สถานการณ์ราคายางไทยวันนี้ยังผันผวน เนื่องจากยังไม่ใช่ช่วงขาขึ้นจริง โดยขาขึ้นจริงยังต้องรออีก 3 ปีนับจากนี้ จากราคายางพาราที่ผันผวนนี้ทำให้พ่อค้ายางแผ่นดิบรายย่อย รายเล็ก และรายขนาดกลาง ต้องประสบกับภาวะขาดทุนจนต้องหยุดกิจการไปแล้วไม่ต่ำกว่า 30% เนื่องจากยางแผ่นดิบที่ซื้อไว้สต๊อกไว้เพื่อขายในราคาดี แต่กลับปล่อยออกไม่ทันในช่วงที่ราคายังนิ่ง


   "ตอน นี้ขอเตือนไปยังเกษตรกรชาวสวนยาง พ่อค้าคนกลางรายเล็ก รายย่อย และรายขนาดกลาง หากซื้อยางแผ่นดิบอย่าสต๊อกเอาไว้ ให้ซื้อมาขายไประหว่างวัน เพราะยางราคายังผันผวน ไม่มีราคาขาขึ้นจริง ยังจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี ราคายางพาราจึงจะเป็นช่วงขาขึ้นจริงและมีเสถียรภาพ"


   นาย เงินวสวัตติ์กล่าวอีกว่า นอกจากราคาที่ผันผวนทำให้พ่อค้าคนกลางต้องปิดกิจการแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคือ ชาวสวนยางหันไปทำน้ำยางสดถึง 80% ทำให้การทำยางแผ่นดิบน้อย โดยเฉพาะที่ตลาดเขตเทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งเป็นศูนย์กลางซื้อยางอันดับ 1 ของจังหวัดพัทลุง มีพ่อค้าซื้อยางแผ่นดิบประมาณ 15 รายต้องหยุดกิจการไป รวมทั้งที่หยุดกิจการไปก่อนล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้เหลือเพียง 3-4 รายเท่านั้น


   ใน ส่วนของน้ำยางสดยังไม่ประสบภาวะขาดทุน เพราะซื้อมาขายไปวันต่อวัน โดยราคาน้ำยางสดที่สะท้อนความเป็นจริงขณะนี้คือ ต้องเคลื่อนไหวอยู่ที่กิโลกรัมละ 47-48 บาท หากต่ำกว่านี้เป็นราคาที่ไม่สะท้อนความเป็นจริง ซึ่งการซื้อมาขายไปถือเป็นวิธีที่พ่อค้ายางแผ่นดิบต้องทำเช่นกัน ไม่ควรสต๊อกไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากปัจจุบันราคายางผันผวนและเป็นไปตามกลไกตลาดที่กลุ่มการค้ายางอิง คือ เศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน


   อย่าง ไรก็ตามจากการผันผวนของราคายาง ทำให้พ่อค้าคนกลางขนาดกลาง ขนาดเล็ก ประสบภาวะขาดทุนต้องเลิกกิจการไป ทำให้เหลือรายสำคัญ และทำให้บริษัทขนาดใหญ่ที่เคยรับซื้อจากพ่อค้าคนกลางได้ตั้งตัวแทนเข้ามา เป็นพ่อค้าเอง เกิดผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนยาง เพราะแต่เดิมจะถูกพ่อค้าคนกลางคิดส่วนต่างค่าบริหารจัดการประมาณกิโลกรัมละ 1.50 บาท ซึ่งจะทำให้ชาวสวนยางได้ส่วนต่างนี้กลับมา




ที่มา ประชาชาติ