ค้า ?ด่านสะเดา? คึกคัก ยอดแตะ 3.6 หมื่นล้าน - ยางพาราแชมป์ส่งออก (08/12/2559)
นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 จังหวัดสงขลา (สศท.9) ได้ดำเนินการวิจัยแนวทางพัฒนาการเกษตรจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กรณีศึกษา เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา โดยศึกษาสถานการณ์การค้ายางพาราผ่านด่านการค้าชายแดนสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ รวมทั้งศึกษาการบริหารจัดการด้านการส่งออกสินค้ายางพาราในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา เพื่อเสนอแนะแนวทางพัฒนาการเกษตรจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา
สำหรับปี 2558 มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรผ่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ผ่านด่านพิธีการศุลกากรสะเดา จ.สงขลา มีมูลค่า 36,235 ล้านบาท ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ 18 โดยยางพารามีมูลค่าการส่งออกมากที่สุดถึงร้อยละ 65 ปริมาณการส่งออกรวม 1,007,126 ตัน มีการส่งออกไปยังประเทศจีน 503,035 ตัน รองลงมาส่งออกไปมาเลเซีย 239,365 ตัน ญี่ปุ่น 62,644 ตัน สหรัฐอเมริกา 19,503 ตัน และประเทศอื่นๆ รวม 53 ประเทศ 182,579 ตัน โดยชนิดของน้ำยางที่ส่งออกแบ่งเป็น น้ำยางร้อยละ 41 ยางแท่งร้อยละ 34 ยางแผ่น ร้อยละ 10 ยางผสม ร้อยละ 13 และยางอื่นๆ ร้อยละ 1
ด้านการพัฒนาปรับปรุงในเรื่องพิธีการส่งออก กรมศุลกากรได้พัฒนาจากระบบ Manual มาใช้ระบบ Electronic Data Interchange (EDI) และพัฒนามาใช้ระบบ National single windows (NSW) โดยการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ (Paperless) มีการเชื่อมโยงข้อมูลแบบไร้เอกสารผ่านระบบ NSW แล้ว 36 หน่วยงาน สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มี 4 หน่วยงาน คือ การยางแห่งประเทศไทย กรมวิชาการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์
ทั้งนี้ จากการศึกษา พบว่า ควรมีการพัฒนาพื้นที่ และโครงสร้างพื้นฐาน และระบบโลจิสติกส์ที่สมบูรณ์อย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและพื้นที่การค้าภายใต้เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตลอดจนการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัยให้มีการพัฒนา เกิดการบริหารแบบเบ็ดเสร็จ
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 8 ธันวาคม 2559)