ผู้เขียน หัวข้อ: กยท. เดินหน้า ส่งเสริมใช้ยางในประเทศ จับมือดีสโตน ดัน โครงการยางล้อประชารัฐ พร้อมแจงหลายหน่วยงานรัฐ ติดปัญหางบ กระทบต่อก  (อ่าน 701 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87640
    • ดูรายละเอียด

กยท. เดินหน้า ส่งเสริมใช้ยางในประเทศ จับมือดีสโตน ดัน โครงการยางล้อประชารัฐ พร้อมแจงหลายหน่วยงานรัฐ ติดปัญหางบ กระทบต่อการแปรรูป

วันที่ 30 มี.ค. 2560

                 นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง กล่าวว่า จากนโยบายในการส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศของรัฐบาล มีหลายหน่วยงานที่ให้ความสำคัญ และสนใจในการร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร ที่ผ่านมาจึงเกิดโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ (คสร.) รับซื้อผลผลิตโดยตรงจากเกษตรกร ส่วนหนึ่งเพื่อลดปริมาณในตลาด และเป็นการชี้นำราคายางให้สูงขึ้น และผลการดำเนินงานโครงการครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่กำหนดไว้ เนื่องจาก ราคายางมีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรชาวสวนยาง มีการนำยางมาขายผ่านโครงการน้อยลง ปริมาณยางในโครงการประมาณ 2,800 ตัน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการ แม้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายโครงการที่ตั้งไว้ 100,000 ตัน อย่างไรก็ตาม ด้วยกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อนำไปแปรรูปของแต่ละหน่วยงานที่มีการแจ้งความประสงค์จะนำยางพาราไปแปรรูปใช้ในประเทศ ประสบปัญหาเรื่องงบประมาณประจำปีของแต่ละหน่วยงานภาครัฐที่กำหนดไว้ ทำให้ไม่สามารถนำยางในโครงการดังกล่าว ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทันที กยท.จึงได้ต่อยอดเป็นโครงการยางประชารัฐ เพื่อกระตุ้นการใช้ยางในประเทศและสร้างมูลค่าสินค้ายางพาราให้เพิ่มสูงขึ้น

               นายณกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กยท. ในฐานะองค์กรรัฐวิสาหกิจหลักที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ ตระหนักถึงความสำคัญในการผลักดันและส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เพราะไทยเป็นประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติที่ส่งออกรายใหญ่ของโลก หากมีการกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการแปรรูปเพื่อใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากที่สุด จะเป็นประโยชน์สูงสุดที่จะนำผลผลิตที่มีคุณภาพ มาผลิตเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เพื่อให้คนในประเทศได้ใช้ของดีมีคุณภาพ ซึ่งการริเริ่มโครงการล้อยางประชารัฐ เป็นหนึ่งในโครงการที่จะมีการนำยางไปใช้มากที่สุด เพราะธุรกิจยานยนต์ เป็นธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบจากยางพาราเป็นจำนวนมาก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยมีผลผลิตยางประมาณ 4.47 ล้านตัน สามารถนำไปใช้ภายในประเทศประมาณ 0.6 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 13.42 ของผลผลิตทั้งหมด และยางส่วนใหญ่ถูกใช้ในการผลิตยางยานพาหนะ 0.34 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 56.48 ของปริมาณยางทั้งหมด ในขณะเดียวกัน แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ ภายในประเทศจะมีความเติบโตขึ้นในช่วงปี 2560 เนื่องมาจาก ตลาดส่งออกมีการขยายสู่ภูมิภาคอาเซียนตามแผนการส่งออกรถอีโคคาร์จากเงื่อนไขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น ดังนั้น หากมีการนำผลผลิตยาง ไปผลิตยางล้อรถยนต์นั่งที่มีส่วนผสมของยางพาราเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ ได้มาตรฐานคุณภาพในราคาต่ำกว่าท้องตลาด จะเป็นโอกาสในการนำวัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศ เพิ่มรายได้ให้กับประเทศชาติมากขึ้นด้วยมีการส่งออกวัตถุดิบยางประเภทต่างๆ เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม

"การที่ กยท.จับมือร่วมกับบริษัทผลิตยางรถยนต์เอกชน ดีสโตน ซึ่งเป็นแบรนด์ยางล้อของไทยที่ส่งขายทั่วโลก ทั้งในแถบเอเชียและยุโรป เป็นที่เชื่อมั่นในมาตรฐานด้านความปลอดภัย มุ่งจำหน่ายแก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่สนใจ นับว่าเป็นโอกาสดีทั้งภาคเกษตรกร เอกชน และรัฐ ที่จะร่วมกันนำน้ำยางพาราจากภาคเกษตรกร เข้าสู่กระบวนการแปรรูป และเกิดการใช้จริง? นายณกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย


ทีมข่าวประชาสัมพันธ์การยางฯ