« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2017, 04:20:58 PM »
ชง 4 มาตรการช่วยชาวสวนยาง รอครม.เคาะสัปดาห์หน้า ราคายางเด้งทันควันหลังถก 5 เสือวันที่ 8 มิถุนายน 2560 - 17:28 น. ที่มา มติชนออนไลน์
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า กระทรวงเกษตรฯเตรียม 4 มาตรการตามมติของคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน เพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางพารา เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ประกอบด้วย 1.มาตรการขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวมยางพาราภายใต้แนวทางยางพาราทั้งระบบ วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและดูดซับผลผลิตที่จะออกมาสู่ตลาด โดยรัฐบาลจะชดเชยรับภาระดอกเบี้ยไม่เกิน 3% คิดเป็นงบประมาณที่รัฐต้องชดเชยทั้งสิ้น 300 ล้านบาท คาดการณ์ว่าจะสามารถดูดซับผลผลิตออกจากระบบได้ประมาณ 2 แสนตันในปีนี้2.มาตรการขยายระยะเวลาโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี จากที่หมดอายุแล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 3.มาตรการขยายระยะเวลาโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง (เพิ่มเติม) ออกไปอีก 90 วัน เพื่อรอรับเกษตรกรตกค้างประมาณ 1.1 หมื่นครัวเรือน และ 4.มาตรการขยายระยะเวลาโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางเพื่อเพิ่มสภาพคล่องออกไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563"ต้องยอมรับว่า ข้อเท็จจริงในช่วงนี้ใกล้เข้าสู่ช่วงปิดกรีดยาง ทำให้เป็นธรรมดาที่ระดับราคายางในตลาดจะมีการแกว่งตัวขึ้นลงอย่างมาก ซึ่งเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ผมได้สั่งการให้การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เรียก 5 บริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาหารือเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันไม่ให้มีการบิดเบี้ยวกลไกตลาด ผ่านการใช้เทคนิคของผู้ซื้อ ให้ราคาเป็นธรรมมากที่สุด ซึ่งจากนี้ไปเชื่อว่า ราคาน่าจะมีทิศทางที่ดี รวมทั้งกระทรวงยังเตรียมเสนออีก 4 มาตรการให้ครม.เห็นชอบในสัปดาห์หน้า? พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่กยท.ได้เรียกผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ 5 บริษัท หรือ 5 เสือ มาหารือเพื่อออกมาตรการร่วมกันในการดันราคายางให้สูงขึ้น รวมทั้งกยท. ได้ส่งหนังสือไปยังประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพื่อเชิญหารือร่วมกัน ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ถึงการออกมาตรการงดการส่งออกยางพารา พร้อมกันทั้ง 3 ประเทศ เพื่อยกระดับราคาให้สูงขึ้นนั้น จากการติดตามสถานการณ์ราคายางของกยท. พบว่า ตลาดได้ตอบสนองเชิงบวกต่อข่าวดังกล่าว ส่งผลให้ราคายางพาราในวันที่ 8 มิถุนายน มีการปรับตัวสูง โดยราคายางแผ่นดิบ ณ ตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.14 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) อยู่ที่ 54.78 บาทต่อกก. ยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.90 บาทต่อกก. อยู่ที่ 57.60 บาทต่อกก. และยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ณ ตลาดส่งออก ท่าเรือคลองเตย กรุงเทพฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.90 บาทต่อกก. อยู่ที่ 61.70 บาทต่อกก.นายธีธัช กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่มีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางบางส่วนออกมาระบุว่า 2 ปีที่ผ่านมาของกยท.ไร้ผลงาน ขอไม่พูดอะไร แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อเดินหน้าต่อไปให้ดีที่สุด เพราะถ้าพูดอะไรออกไปก็อาจกลายเป็นประเด็นความขัดแย้ง เป็นประเด็นเชิงลบ รวมทั้งกระทบต่อราคายางในตลาดได้ ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะเกษตรกรที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2017, 04:23:34 PM โดย Rakayang.Com »
