ผู้เขียน หัวข้อ: โวย5บริษัทใหญ่จับมือกดราคายาง จี้'ประยุทธ์'เร่งแก้เดือดร้อน  (อ่าน 1023 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82291
    • ดูรายละเอียด
โวย5บริษัทใหญ่จับมือกดราคายาง จี้'ประยุทธ์'เร่งแก้เดือดร้อน

เสาร์ 10  มิถุนายน 2560  ที่มา กรุงเทพธุรกิจ


 
เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยาง56จังหวัด ยื่นหนังสือถึง "นายกฯประยุทธ์" ผ่านผู้ว่าฯ เรียกร้องให้กำกับดูแลราคายาง หลังถูกกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ส่งออกยางพาราทั้ง5บริษัท จับมือกดราคา ทำให้ชาวสวนยางเดือดร้อน
กลุ่มเครือช่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดตรัง นำโดยนายประทบ สุขสนาน รองประธานเครือช่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือช่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศ และสมาชิกเครือช่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดตรังกว่า20คน
 
 เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นการยื่นหนังสือพร้อมกันกับเครือข่ายสถาบันเกษตรกรฯทั้ง56จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาราคายางพาราผันผวนตกต่ำอย่างต่อเนื่อง จากฝีมือของกลุ่มบริษัทผู้ส่งออกยางรายใหญ่5บริษัท สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ด้วยการปล้นรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยาง จากการปล่อยข่าว และร่วมมือกันฉวยโอกาสกดดันราคายางพาราให้ตกต่ำ
 
 ในห้วงเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ เกษตรกรสูญเสียรายได้รวม1พันกว่าล้านบาท และสถาบันและผู้ประกอบการ ได้ตื่นตระหนกเทขายยาง ทำให้ขาดทุนอย่างมากมาย โดยยื่นข้อเรียกร้องจำนวน6ข้อ คือ1.ให้รัฐบาลส่งเสริมให้มีการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐอย่างจริงจัง ให้ได้40 %ของผลผลิตยางที่ออกสู่ตลาด และขยายการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐให้เพิ่มมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง
 
อาทิ เช่น การนำยางเป็นส่วนผสมเพื่อทำถนน-การสร้างโรงงานผลิตยางล้อแห่งชาติ-การส่งเสริมแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในหน่วยงานรัฐ , 2.การสนับสนุนโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับยางพารา-การอนุมัติเงินหมุนเวียน10,000ล้าน ผ่านมติคณะรัฐมนตรี-การสนับสนุนโครงการทั้งในส่วนของงบพัฒนาจังหวัดและงบยุทธศาสตร์เพิ่มขึ้น, 3.ให้ทบทวนหรือแก้ไขแนบท้ายผังเมืองที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนายางให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศโดยด่วน, 4.ให้แก้ไขโครงการประชารัฐเกี่ยวกับยาง โดยผู้แปรรูปยางพาราพบกับผู้ผลิตโดยตรง โดยไม่ผ่านบริษัทพ่อค้าคนกลาง กำหนดราคาซื้อขายด้วยตัวเอง โดยไม่ยึดราคาตลาดกลาง
 
ทำให้ผลประโยชน์ไปตกกับบริษัท ส่วนชาวสวนเสียผลประโยชน์, 5.ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเอาผิดกับการปล่อยข่าวที่สร้างความเสียหายต่อระบบกลไกตลาดและทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน,6.ให้บังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมการยางอย่างเด็ดขาด กับผู้ประกอบการยางที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือสร้างความเสียหายต่อระบบกลไกของราคา ทำให้รัฐสูญเสียผลประโยชน์ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนซึ่งการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีพร้อมกันในวันนี้ มีการกำหนดวันขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีภายในวันที่15มิถุนายนนี้ ซึ่งหากไม่ได้เข้าพบก็จะมีการประชุมร่วมกันกับเครือข่ายยางทั่วประเทศ เพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวต่อไป
 
นายประทบ สุขสนาน รองประธานเครือช่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วิกฤติการณ์ราคายาพาราตกต่ำในครั้งนี้ ถือเป็นรอบที่2ของปีนี้ สาเหตุมาจากการจับมือกันของกลุ่มผู้ประกอบการส่งออกยางพารา ในการบิดเบือนกดดันราคา จึงอยากเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีเข้ามากำกับดูแลกลไกของตลาดยางพารา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพราะทุกครั้งมีกลุ่มคนได้รับผลประโยชน์ ชณะที่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเป็นผู้เสียผลประโยชน์และได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก โดยครั้งนี้กลุ่มทุนได้รับผลประโยชน์ไปไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท ขณะที่สถาบันเกษตรกรต้องประสบปัญหาขาดทุนแล้วจำนวนมาก
 
ขณะที่นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือช่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหายางพารา รวมทั้งโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ100,000ตัน ก็ล้มเหลว มาถึงโครงการประชารัฐจากการใช้ยางพารา นายทุนที่ได้รับโครงการไป กลับทำให้เกษตรกรเดิอดร้อน เพราะไม่ได้ยึดราคากลางในการซื้อขายยางจากสถาบันเกษตรกร จึงมองว่ารัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหายางพาราและไม่จริงใจในการแก้ปัญหา จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีกำกับดูแลการแก้ปัญหา และบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมการยางอย่างจริงจัง เอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วมกันกดดันบิดเบือนราคาของตลาด และยืนยันในวันที่15มิถุนายนนี้ จะขอเข้าพบพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไม่เคยเปิดโอกาสให้ตัวแทนชาวสวนยางได้พบปะพูดคุย เพื่อเสนอปัญหาด้วยท่านนายกฯเอง


อ้างอิงจากที่มา หัวข้อข่าวและคลิป http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/758709