ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก รับถ้อยแถลงจนท.เฟด  (อ่าน 301 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82391
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก รับถ้อยแถลงจนท.เฟด


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 27 มิถุนายน 2560 07:06:57 น.
 
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กและซานฟรานซิสโกที่ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้
 
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1191 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1199 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2715 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2725 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7588 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7574 ดอลลาร์


ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.70 เยน จากระดับ 111.25 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ  0.9717 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9690 ฟรังก์สวิส
 
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.07% สู่ระดับ 97.332 เมื่อคืนนี้
 
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนภายหลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนายวิลเลียมส์ ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ต่างก็ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ เพื่อหนุนการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจสหรัฐ
 
ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อทำให้นโยบายการเงินกลับสู่ภาวะปกตินั้น จะช่วยให้สามารถรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจในอัตราที่จะดำเนินไปอย่างยั่งยืนในระยะยาว และถ้ารอนานเกินไป เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ และปัญหาอื่นๆ และอาจถึงขั้นที่ทำให้เฟดอยู่ในสภาพที่ต้องรีบปรับนโยบายเพื่อชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
 
ขณะที่นายดัดลีย์กล่าวว่า การชะลอตัวลงของภาคสินเชื่อ ประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลง ล้วนเป็นปัจจัยที่จะส่งเสริมให้เฟดดำเนินนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น
 
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ร่วงลง 1.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากลดลง 0.9% ในเดือนเม.ย.
 
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย.โดยเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.โดยเฟดสาขาริชมอนด์
 
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม "Global Economic Issues" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า นางเยลเลนจะเน้นย้ำถึงจุดยืนของเฟดที่ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป หรือการเริ่มปรับลดงบดุลของเฟดนั้น จะพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดได้รับ