ผู้เขียน หัวข้อ: ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น จากอานิสงส์ดอลล์อ่อน,กังวลทรัมป์ขู่ชัตดาวน์รัฐบาล  (อ่าน 290 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82023
    • ดูรายละเอียด

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น จากอานิสงส์ดอลล์อ่อน,กังวลทรัมป์ขู่ชัตดาวน์รัฐบาล
 

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 22:50:09 น.
 
ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนจากปัจจัยการเมืองในสหรัฐ ก่อนที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาทองในวันนี้
 
ณ เวลา 22.29 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้น 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.23% สู่ระดับ 1,294.30 ดอลลาร์/ออนซ์


ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
 
ดอลลาร์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 109 เยนในวันนี้ โดยนักลงทุนมีความกังวลต่อคำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
 
ณ เวลา 19.10 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.45% สู่ระดับ 109.07 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.05% สู่ระดับ 128.77 เยน และดีดตัวขึ้น 0.38% สู่ระดับ 1.1805 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.26% สู่ระดับ 93.30
 
ดอลลาร์ปรับตัวในกรอบกลางของ 109 เยนในการซื้อขายช่วงเช้า โดยได้รับแรงหนุนจากการที่นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวแสดงความหวังเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษี
 
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงในเวลาต่อมา หลังจากที่ปธน.ทรัมป์กล่าวเรียกร้องให้มีการสนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นระหว่างชายแดนสหรัฐและเม็กซิโก แม้จะต้องแลกมาด้วยการที่รัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานก็ตาม
"ถ้าเราต้องปิดการดำเนินงานของรัฐบาล เราก็จะยังคงสร้างกำแพง" เขากล่าว
 
ขณะนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังมีความขัดแย้งกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยถ้าหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก ซึ่งปธน.ทรัมป์จะต้องลงนามเป็นกฎหมายภายในเส้นตายวันที่ 30 ก.ย. หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่งก็จะต้องปิดตัวลง เนื่องจากรัฐบาลขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงจุดยืนอย่างเปิดเผยว่า พวกเขาจะขัดขวางการอนุมัติงบประมาณของรัฐบาล หากมีการรวมถึงงบการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
 
หากสภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล แต่มีการตัดงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก ปธน.ทรัมป์ก็จะทำการวีโต้ หรือเลือกที่จะไม่ลงนามในงบประมาณดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงาน เนื่องจากขาดงบประมาณ
 
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาไม่มั่นใจว่าสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาแก้ไขข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) กับแคนาดา และเม็กซิโก
 
"โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลง ผมคิดว่าในที่สุดแล้ว เราอาจลงเอยด้วยการยกเลิกข้อตกลง NAFTA" เขากล่าว
 
นักลงทุนซื้อขายด้วยความระมัดระวังก่อนการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"
 
การประชุมเศรษฐกิจประจำปีซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้นั้น จะมีการหารือกันในประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ โดยจะมีผู้ว่าการธนาคารกลาง  รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด, นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น