ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวสวนยางมีเฮ ผู้ว่าฯกยท.ยันได้เห็นราคาแตะ 70 บาทแน่  (อ่าน 3371 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82776
    • ดูรายละเอียด
ชาวสวนยางมีเฮ ผู้ว่าฯกยท.ยันได้เห็นราคาแตะ 70 บาทแน่

วันพุธที่ 30 สิงหาคม 2560 เวลา 10.43 น. ที่มา แนวหน้า



เกษตรกรสวนยางมีเฮแน่ ผู้ว่าฯกยท.ยันได้เห็นราคายางไปถึง70บาทต่อกก. มั่นใจกองทุนรักษาราคายางทำกลไกสองตลาดดันราคาในทิศทางบวก ลดปัจจัยเสี่ยงจากตลาดภายใน-นอกประเทศมากดราคายางเกษตรกรไทย ชี้ได้ผลดีระยะยาวกว่าประกัน จำนำ ระบุบิ๊กฉัตรวางเป้าใช้ยางในประเทศแสนตันต่อปีดันราคายางเพิ่มมหาศาล

30 ส.ค.60 นาย ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคายางพารามีแนวโน้มขยับตัวต่อเนื่องขึ้น จะเห็นว่าราคายางแผ่นรมควันชั้นสาม ขยับจาก 49 บาทต่อ กก.ช่วงเดือน ก.ค.ขึ้นมากว่า 58 - 60 บาทต่อ กก.โดยตั้งเป้าราคาไปได้ถึง 70 บาท ทั้งนี้ จากที่กองทุนรักษาเสถียรภาพราคายาง เข้าซื้อขายยางทั้งในตลาดซื้อขายจริง และตลาดล่วงหน้า ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของราคาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องใช้ราคาอ้างอิงจากตลางต่างประเทศ ที่ผ่านมามีปัจจัยเสี่ยงมาก เพราะตลาดใหญ่ๆเก็งกำไรค่อนข้างสูง จึงมาส่งผลกระทบราคายางเกษตรกรไทยตกต่ำมาตลอด

"กองทุนยางฯ เข้าเทรดช่วงกลางเดือน ก.ค.เดิมที่ กยท.เข้าซื้อด้วยทุนของ กยท.เอง มาเดือน ส.ค.ได้รับทุนเพิ่มเติม จาก 5 บริษัทรายใหญ่ รวมวงเงิน 1.2 พันล้านบาท เข้าซื้อทั้งสองตลาด ซึ่งตลาดซื้อขายยางจริง จะเปิดเวลา 11.00 น.ส่งราคาไปทั่วประเทศ ใช้เป็นราคากับผู้ซื้อขายไปซื้อจากเกษตรกร อีกส่วนเข้าซื้อขายในตลาดสัญญาล่วงหน้า (ทีเฟ็ก) สมัยก่อนประเทศไทยใช้ราคาอ้างอิง จากตลาดโตคอม ไซคอม เซียงไฮ้ นำมาหักลบส่วนต่าง และภาษี มาใช้ซื้อขายในประเทศ ซึ่ง ทำให้เราไปพึ่งราคาภายนอกสูงมากไป รับความผันผวนจากตลาดเก็งกำไร ค่อนข้างมาก บางวันการซื้อขายไม่ได้ขึ้นกับปัจจัยพื้นฐาน ทำให้เราเกิดความเสี่ยงมาตลอดไปอ้างอิงตลาดนี้" นายธีธัช กล่าวผู้ว่าฯ กยท.กล่าวว่า กยท.ทำให้เกิดราคาอ้างอิงทั้งสองตลาดในไทยอยู่ในทิศทางมีส่วนทำให้ราคาไปทางทิศทางบวก เป็นการใช้กลไกด้านการตลาดในประเทศ ผันผวนน้อย ต่างจากในอดีตเลือกใช้งบประมาณไปประกันราคาหรือจำนำ ซึ่งไม่ได้ผลเสมอไป ยังเพิ่มภาระกับงบประมาณแผ่นดินภายหลัง สต็อกเพิ่ม มีการทุจริต



"ใช้ความร่วมมือเอกชนรายใหญ่ ออกเงินมาร่วมลงขัน ดันราคายางไปตามเป้าหมาย 60 - 70 บาทต่อ กก.ในเดือน ก.ย.เพื่อเกิดเสถียรภาพ ตามที่กองทุนฯตั้งไว้ วันนี้ก็มาใกล้แล้ว ทำให้เกษตรกรสวนยางอยู่ได้ จากต้นทุนล่าสุดที่สำนักงานเศรษฐฺกิจการเกษตร (สศก.) สรุปตัวใช้การคำนวน 50.30 บาทต่อ กก.บวกกำไรตามปกติ 15 - 20% ราคาขายอยู่ประมาณ 60 บาท เมื่อได้ราคา 70 บาท จะได้กำไร สูงเกินค่าเฉลี่ยขึ้นไปอีก" นายธีธัช กล่าว



ผู้ว่าฯ กยท.กล่าวถึงมาตรการใช้ยางในประเทศ ล่าสุด กยท.อนุมัติงบเพิ่มเติม 29 ล้านบาท นำผลทดสอบการนำน้ำยางมาราดถนน ที่ทำจริงเป็นค่ามาตรฐาน ไปให้ทุกหน่วยอ้างอิงในการตั้งทีโออาร์จัดซื้อจัดจ้าง ขณะเดียวกันบางหน่วยงานไม่จำเป็นไม่ต้องใช้ กรมชลประทาน นำยางราดทำถนนคลองแนวเขื่อน ซึ่งมีมาตรฐานของกรมชลฯ เอง ซึ่งหน่วยทหารต่างๆ ได้รับงบสนับสนุน ทำถนนภายในหน่วยงาน ภายใน 2 - 3 เดือน จะออกมาเป็นรูปธรรม โดยปีนี้ ใช้ยาง 2 - 3 หมื่นตัน ในปีหน้า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้แต่ละหน่วยงานส่งตัวเลขเป้าหมายใหม่ หากได้ 1 แสนตัน ราคาดีขึ้นมหาศาล เมื่อเทียบกับทั่วโลกใช้ยางปริมาณ 12 ล้านตัน ไทยส่งออก 3 ล้านกว่า ผลิตได้ 4.4 ล้านตัน ที่ผ่านมาใช้ในประเทศ 6 แสนตัน หากเพิ่มใช้ในประเทศเพิ่มขึ้น สัดส่วนส่งออกน้อยลง ผู้ใช้ต้องการของ ก็จะให้ราคาเพิ่ม



นอกจากนี้ ในวันที่ 15 ก.ย.ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีสามประเทศ ผู้ผลิตยาง เช่น ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ทั้งได้ทำหนังสือเชิญประเทศเวียดนาม ที่ปลูกมาก อันดับสามมาร่วมด้วย เพื่อวางมาตราการเตรียมรองรับความความผันผวนด้านราคา และมาตรส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกยาง สร้างเสถียรภาพยางในกลุ่มประเทศสมาชิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2017, 07:02:31 PM โดย Rakayang.Com »