ผู้เขียน หัวข้อ: มั่นใจยางแตะ60บาท กยท.ชี้ปัจจัยใน-นอกประเทศหนุนแนวโน้มดีขึ้น  (อ่าน 1022 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87620
    • ดูรายละเอียด

มั่นใจยางแตะ60บาท กยท.ชี้ปัจจัยใน-นอกประเทศหนุนแนวโน้มดีขึ้น


หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 4 กันยายน 2560 00:00:09 น.
 
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเกือบ 60 บาท ต่อกิโลกรัมแล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวสูงขึ้น และปัจจัยภายในจากมาตรการของภาครัฐที่ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ช่วยผลักดันให้ราคายางสูงขึ้น ประกอบกับภาคการส่งออกของไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12 สูงกว่าที่คาดหวังไว้ ขณะที่ตลาดรถยนต์ยังมีการขยายตัวถึงร้อยละ 8 ทำให้ความต้องการยางเพื่อผลิตยางล้อรถยนต์เพิ่มขึ้นมากด้วย นอกจากนี้ ฤดูฝนปีนี้มาเร็วกว่าปกติและยาวนาน สวนยางในบางพื้นที่ของภาคอีสานยังประสบปัญหาน้ำท่วมซึ่งจะมีผลต่อการกรีดยางได้น้อยลง



ส่วนแรงกดดันจากบริษัทรับซื้อยางจากประเทศยุโรป และญี่ปุ่น ที่จะรับซื้อเฉพาะไม้หรือผลิตภัณฑ์จากไม้ที่ได้รับเครื่องหมาย FSC ซึ่งเป็นไม้จากการจัดการสวนยางอย่างยั่งยืน อย่างถูกต้องตามหลักการ ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาตินั้น ยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ในขณะนี้ จะเริ่มใช้ในปี ค.ศ.2020 หรือ ปี พ.ศ.2563 ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะเรามีมาตรการรองรับ ในเรื่องการออกมาตรฐานการจัดการสวนยางอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล FSC แล้ว โดยขณะนี้ได้นำร่องดำเนินการในพื้นที่สวนยาง 50,000 ไร่ และกำลังจะขยายผลไปดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ ทั้งในสวนยางภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคใต้ คาดว่าภายในระยะเวลาที่เหลือ 3 ปี จะสามารถ ดำเนินการครอบคลุมพื้นที่สวนยางที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ กยท.ได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน
 
นายธีธัชกล่าวต่อว่า การที่ประเทศยุโรป และญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศอื่นๆ ที่จะนำมาตรฐาน FSC มาใช้นั้น ประเทศไทยน่าจะได้รับอานิสงส์มากกว่า เพราะการใช้มาตรฐานดังกล่าว ไม่ได้บังคับใช้กับประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ด้วย ถ้าประเทศเหล่านี้ไม่ทำการจัดการสวนยางตามมาตรฐานสากล FSC แล้ว คำสั่งซื้อยางจะ ยิ่งไหลเข้ามาในประเทศไทยที่มีการจัดการสวนยางตามมาตรฐานสากล FSC มากขึ้น