ผู้เขียน หัวข้อ: โจรสลัดอันดามัน : สต็อกปาล์มล้นปัญหาระดับชาติ  (อ่าน 703 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82038
    • ดูรายละเอียด

โจรสลัดอันดามัน : สต็อกปาล์มล้นปัญหาระดับชาติ






Publisher : 11 December 2017 ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป.มีมติให้แก้ปัญหาปาล์มราคาตกต่ำภายใน 2 เดือน โดยใช้วิธีการขอความร่วมมือให้ผู้ค้าสต็อกเพิ่ม ตั้งเป้า 1 แสนตันและเร่งผลักดันการส่งออก 1 แสนตัน เพื่อลดปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือที่ 3 แสนตัน
 
 ฟังดูดีแต่ยังไม่เห็นรูปธรรม เพียงแค่นโยบายกว้างๆแปลง่ายๆคือ ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากสั่งการให้ไปทำจะได้ผลหรือไม่ ไม่รู้

13089072881308907643l
 

 ก่อนอื่นลองไล่ไปดูว่าสต็อกขึ้นมาตอนไหนอย่างไร ใครรั่วในการแก้ปัญหา มีคนส่งข้อมูลมาให้ดังนี้ครับ สต็อกเดือน ม.ค. 2.93 แสนตัน ก.พ. 2.37 แสนตัน มี.ค. 2.2 แสนตัน เม.ย. 2.74 แสนตัน พ.ค. 3.58 แสนตัน มิ.ย. 4.47 แสนตัน ก.ค. 4.54 แสนตัน ส.ค. 4.42 แสนตัน ก.ย. 4.26 แสนตัน และต.ค. 5.19 แสนตัน
 
 ไล่เรียงตามข้อมูลจะแลเห็นว่า ตั้งแต่เดือนมิ.ย.2560 เป็นต้นมา วิกฤติเริ่มมาเยือนแล้วครับ
 
 
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็น รมช.พานิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พานิชย์
 
 ถามว่าข้อมูลนี้ใครรู้ กระทรวงเกษตรกับกระทรวงพาณิชย์ต้องรู้ โดยเฉพาะกรมการค้าภายใน ต้องรู้ดีกว่าใคร ต้องให้ผู้ค้าแจ้งรายงานสต็อกทุกเดือน ถามว่ากรมการค้าภายในทำอะไรอยู่ นั่งทับปัญหาไว้ทำไม หรือผู้มีอำนาจ ทำไมไม่สั่งการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น
 
 สนธิรัตน์ รมว.พาณิชย์ และ อธิบดีกรมการค้าภายใน ต้องตั้งหลักให้ดี วิเคราะห์ข้อมูลจากข้อเท็จจริงให้ดี ไม่นั่งฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว ต้องหาเวลาลงไปที่ลานปาล์มบ้าง เพราะราคาที่โค้ดกันที่ลานปาล์ม เป็นราคาที่เกษตรกรขายได้จริง วันสองวันนี้(8-9 ธ.ค.)ผลปาล์มดิบอยุ่ที่ 2.70 บาทต่อกก.ราคาหน้าโรงสกัดอยู่ที่3-3.05 บาท หาใช่ ราคา3.20-3.40 บาทต่อกก. อย่างที่เจ้าหน้าที่รายงานเพียงเพื่อให้ตัวเลขดูดีไม่
 
 โจทย์ที่จะดันราคาไป 3.80 บาทต่อกก.จึงเป็นโจทย์ใหม่ที่ต้องดันขึ้นไปจาก 2.70 บาทต่อกก. ต้องระวังข้อมูล เดินหมากตาแรกผิดจะพ่ายแพ้ไปทั้งกระดาน
 
02-3321



สนธิรัตน์ ต้องเลิกฟังข้อมูลข้างเดียวของกรมการค้าภายในก่อน ประเภทที่บอกว่าผลผลิตดี ผลผลิตเพิ่มเพราะเกษตรกรปลูกเพิ่ม 3-4 แสนไร่ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมานั้นต้องพึงระวัง ต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่าปาล์มใหม่ที่เพาะปลูกกันนั้นกว่าจะได้ผลผลิตต้องใช้เวลา 3 ปีเต็ม
 
 เรื่องเปอร์เซนต์น้ำมันก็เช่นกัน ที่พยายามบอกกันว่าเกษตรกรตัดปาล์มอ่อนเปอร์เซนต์น้ำมันไม่ถึง 18 % ทำให้ขายราคาไม่ดีนั้น เป็นการดูแคลนเกษตรกรมากเกินไปหรือไม่ จริงอยู่อาจมีเล็ดรอดบ้างแต่เป็นจำนวนน้อยมากที่เกษตรกรจะตัดปาล์มที่ไม่สุกและเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ถึง อย่าขยายผลประเด็นนี้ให้มากเพื่อป้องกันความล้มเหลวการแก้ปัญหาของตนเอง จะกลายเป็นหักหาญน้ำใจชาวสวนปาล์มมากเกินไป
 
 มาตรการแก้ปัญหาในการสต็อกเพิ่มและส่งออกเพิ่ม ได้หารือกับผู้ค้ารายใหญ่อย่าง เพชรทักษิณ ยูนิวานิช 2 ขาใหญ่แล้วยัง หารือแล้วผลเป็นอย่างไร คุยพ่อค้าโรงสกัด โรงกลั่นว่าอย่างไร สต็อกเพิ่มได้หรือไม่
 
201025



แน่นอนในการเจรจาพ่อค้ายามนี้ย่อมอิดออด แต่รัฐมีมาตรการมีกฎหมายในมือ ถ้าขอความร่วมมือไม่ได้ผล จะนั่งยิ้มร่าอยู่อย่างเดียว ขณะที่เกษตรกรน้ำตารินหรือ ด้านกระทรวงพลังงานถ้ายังวางเฉยสงวนท่าที จะมีแนวทางขอร้องกดดันในระดับที่เหนือไปกว่า กนป.หรือไม่
 
5000


สนธิรัตน์ ต้องวางจังหวะก้าวให้ดี ปัญหาปาล์มตอนนี้เป็นเรื่องระดับชาติ เป็นปัญหาของครม.ทั้งคณะแล้ว เกินจากกลไก กนป.ธรรมดาๆไปแล้ว เป็นปัญหาระดับวิกฤติเหมือนปัญหาราคาข้าวของชาวนาไปแล้ว



 
 อันว่ายาง ปาล์มนั้นเป็นโครงสร้างใหญ่เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิต ยามใดราคาหดชาวใต้แทบสิ้นใจ แต่ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเหนื่อยยากแค่ไหน พวกเขาอดทนก้มหน้าก้มตาทำงานของเขาไปตามหน้าที่พอมีรายได้เลี้ยงตัวเลี้ยงครอบครัว ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไม่หนักหนาสาหัสสากรรจ์จริงๆ พวกเขาจะไม่ค่อยเดินลงถนน แต่โปรดอย่าละเลยและประเมินพวกเขาต่ำเป็นอันขาดไม่เช่นนั้น.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 11, 2017, 10:49:53 PM โดย Rakayang.Com »