ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 103.81 จุด วิตกข้อมูลศก.สหรัฐซบเซา,หุ้นพลังงาน-สุขภาพร่วง  (อ่าน 319 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82024
    • ดูรายละเอียด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 103.81 จุด วิตกข้อมูลศก.สหรัฐซบเซา,หุ้นพลังงาน-สุขภาพร่วง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน จากรายงานข่าวที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มคืบหน้า   
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,850.63 จุด ลดลง 103.81 จุด หรือ -0.40% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,774.88 จุด ลดลง 9.82 จุด หรือ -0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,459.71 จุด ลดลง 29.36 จุด หรือ -0.39%
          ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตเดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ -4.1 ซึ่งลดลงจากระดับ 17.0 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีการผลิตติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2559 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 14.0
          ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 1.2% สู่ระดับ 4.94 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2558 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านจะอยู่ที่ 5 ล้านยูนิตในเดือนม.ค.
          ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 23,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่านั้น เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 235,750 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว
          หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลง โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮล์ธ กรุ๊ป ร่วงลง 1.1% หุ้นแอลเลอร์แกน ดิ่งลง 2.6% หุ้นโมลินา เฮลธ์แคร์ ลดลง 0.8% ส่วนหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ลดลง 0.7% หลังจากทางบริษัทได้รับหมายเรียกจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เพื่อให้แสดงเอกสารรับรองความปลอดภัยของแป้งเด็กและแป้งทัลค์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิต หลังจากสื่อรายงานว่า บริษัทได้รับรู้เป็นเวลานานหลายสิบปีว่า ผลิตภัณฑ์แป้งโรยตัวของบริษัทมีส่วนผสมของแร่ใยหิน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็ง จนถูกฟ้องร้องในชั้นศาล
          หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 5 สัปดาห์ โดยโดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.9% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.95% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.4% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ดิ่งลง 1.4% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ลดลง 0.7% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 5.4% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 2.8%
          หุ้นไนกี้ ร่วงลง 1.1% จากรายงานข่าวที่ว่า ไซออน วิลเลียมสัน นักบาสเก็ตบอลดาวรุ่งจากทีม Duke University บาดเจ็บในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากรองเท้าไนกี้ที่เขาสวมใส่นั้น ฉีกขาด ส่งผลให้ทีม Duke University พ่ายแพ้ทีม North Carolina
          หุ้นโดมิโน พิซซ่า ดิ่งลง 9.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และไตรมาส 4/2561 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
          อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้เริ่มร่างบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อคลี่คลายประเด็นที่ยุ่งยากที่สุดของข้อพิพาทการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การยุติสงครามการค้าที่ยื้ดเยื้อมาเป็นเวลานานถึง 7 เดือน
          แหล่งข่าวระบุว่า คณะผู้แทนของสหรัฐและจีนกำลังร่าง MoU จำนวน 6 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเชิงโครงสร้าง ซึ่งได้แก่ การโอนถ่ายเทคโนโลยีและการโจรกรรมทางไซเบอร์ สิทธิในการครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา การบริการ ค่าเงิน การเกษตร และกำแพงการค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากร
          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนได้เริ่มการเจรจาการค้ารอบใหม่ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ และจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็คาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้ก่อนสิ้นเดือนก.พ.