ผู้เขียน หัวข้อ: World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ  (อ่าน 318 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82234
    • ดูรายละเอียด

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 กันยายน 2562 07:27:02 น.
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ย. 2562
 
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย หลังจากรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบียได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การผลิตน้ำมันจะฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
 
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,110.80 จุด เพิ่มขึ้น 33.98 จุด หรือ +0.13% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,005.70 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด หรือ +0.26% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,186.02 จุด เพิ่มขึ้น 32.47 จุด หรือ +0.40%
 
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งร่วงลงหลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันจันทร์ และหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมติการประชุมในวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.05% ปิดที่ 389.33 จุด
 
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,372.61 จุด ลดลง 7.70 จุด หรือ -0.06% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,320.40 จุด ลดลง 1.01 จุด หรือ -0.01% ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,615.51 จุด เพิ่มขึ้น 13.29 จุด หรือ +0.24%
 
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลาง หลังจากแหล่งน้ำมันของซาอุดีอาระเบียได้ถูกโจมตีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ การที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,320.40 จุด ลดลง 1.01 จุด หรือ -0.01%
 
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 6% เมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบียได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียจะฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 3.56 ดอลลาร์ หรือ 5.7% ปิดที่ 59.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ดิ่งลง 4.47 ดอลลาร์ หรือ 6.5% ปิดที่ 64.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
 
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงทองคำและพันธบัตร หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
 
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,513.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.4 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 18.14 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 944.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,597.70 ดอลลาร์/ออนซ์
 
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมและดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเยอรมนีที่ดีดตัวเกินคาดในเดือนก.ย.
 
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1066 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1006 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2502 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2424 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6860 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6868 ดอลลาร์
 
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.20 เยน จากระดับ 108.05 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9936 ฟรังก์ จากระดับ 0.9923 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3251 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3240 ดอลลาร์แคนาดา
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 27,110.80 จุด เพิ่มขึ้น 33.98 จุด, +0.13%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,005.70 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด, +0.26%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 8,186.02 จุด เพิ่มขึ้น 32.47 จุด, +0.40%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,372.61 จุด ลดลง 7.70 จุด, -0.06%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,320.40 จุด ลดลง 1.01 จุด, -0.01%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,615.51 จุด เพิ่มขึ้น 13.29 จุด, +0.24%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 36,481.09 จุด ลดลง 642.22 จุด, -1.73%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,183.00 จุด ลดลง 20.93 จุด, -0.65%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,604.30 จุด เพิ่มขึ้น 3.05 จุด, +0.19%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,236.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.25 จุด, +0.28%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,790.24 จุด ลดลง 334.31 จุด, -1.23%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดวันนี้ที่ 7,932.23 จุด ลดลง 64.67 จุด, -0.81%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,978.12 จุด ลดลง 52.63 จุด, -1.74%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,062.33 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด, +0.01%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,695.30 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด, +0.33%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,801.70 จุด เพิ่มขึ้น 19.70 จุด, +0.29%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 22,001.32 จุด เพิ่มขึ้น 13.03 จุด, +0.06%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,874.50 จุด ลดลง 23.63 จุด, -0.22%