ผู้เขียน หัวข้อ: World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ  (อ่าน 293 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82044
    • ดูรายละเอียด

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 8 ตุลาคม 2562 07:32:18 น.
.expanded { width: 620px; z-index: 9999 }ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ต.ค. 2562

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ หลังจากมีรายงานว่า จีนไม่ต้องการทำข้อตกลงการค้าในวงกว้างตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอตัว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,478.02 จุด ลดลง 95.70 จุด หรือ -0.36% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,938.79 จุด ลดลง 13.22 จุด หรือ -0.45% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,956.29 จุด ลดลง 26.18 จุด หรือ -0.33%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และ การเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.71% ปิดที่ 382.91 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,521.61 จุด เพิ่มขึ้น 33.29 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,097.43 จุด เพิ่มขึ้น 84.62 จุด หรือ +0.70% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,197.88 จุด เพิ่มขึ้น 42.50 จุด หรือ +0.59%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ หุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ ซึ่งปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้า โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะเริ่มเจรจากันในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,197.88 จุด เพิ่มขึ้น 42.50 จุด หรือ +0.59%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายงานระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีช่วยของสหรัฐและจีนได้เริ่มต้นการเจรจาการค้ารอบใหม่ เพื่อปูทางสำหรับการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 58.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีความน่าดึงดูดน้อยลง ขณะเดียวกันนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนการเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.5 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 1,504.4  ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.5 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 17.54 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 888.3 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,646.30 ดอลลาร์/ออนซ์

-- เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า อังกฤษอาจจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง หรือ "no-deal Brexit" ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพุธนี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เช่นดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.2299 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2332 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.0973 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0983 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6732 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6770 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.27 เยน จากระดับ 106.85 เยน แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9946 ฟรังก์ จากระดับ 0.9949 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3309 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3323 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 26,478.02 จุด ลดลง 95.70 จุด, -0.36%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,938.79 จุด ลดลง 13.22 จุด, -0.45%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 7,956.29 จุด ลดลง 26.18 จุด, -0.33%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,097.43 จุด เพิ่มขึ้น 84.62 จุด, +0.70%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,197.88 จุด เพิ่มขึ้น 42.50 จุด, +0.59%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,521.61 จุด เพิ่มขึ้น 33.29 จุด, +0.61%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 37,531.98 จุด ลดลง 141.33 จุด, -0.38%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,099.48 จุด เพิ่มขึ้น 21.12 จุด, +0.69%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,559.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด, +0.09%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,000.58 จุด ลดลง 60.67 จุด, -1.00%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดวันนี้ที่ 7,683.22 จุด ลดลง 21.38 จุด, -0.28%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,021.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.04 จุด, +0.05%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,563.60 จุด เพิ่มขึ้น 46.50 จุด, +0.71%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,686.70 จุด เพิ่มขึ้น 49.80 จุด, +0.75%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 21,375.25 จุด ลดลง 34.95 จุด, -0.16%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,935.06 จุด เพิ่มขึ้น 40.58 จุด, +0.37%
ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวานนี้ (7 ต.ค.) เนื่องในเทศกาลชงโหย่ง
ตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวานนี้ ( ต.ค.) เนื่องในวันชาติ