ผู้เขียน หัวข้อ: หวั่นไวรัสโคโรนากระทบเศรษฐกิจจีน  (อ่าน 283 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82024
    • ดูรายละเอียด
หวั่นไวรัสโคโรนากระทบเศรษฐกิจจีน
« เมื่อ: มกราคม 21, 2020, 08:49:54 AM »
หวั่นไวรัสโคโรนากระทบเศรษฐกิจจีน
 
[size=78%]21 January 2020[/size]
 
 
 
หวั่นไวรัสโคโรนา กระทบถึงเศรษฐกิจจีน เกรงภาคท่องเที่ยว-ค้าปลีก เจอหางเลข หากสถานการณ์ลุกลามกลายเป็นการระบาด
 
 เมื่อปลายปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมืองอู๋ฮั่นรายงานว่าพบการติดเชื้อลึกลับในระบบทางเดินหายใจ จากนั้นช่วงต้นปีนี้สื่อทางการรายงานยืนยันว่า เชื้อลึกลับนี้เป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ข่าวดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ฮ่องกงเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง รวมถึงการตรวจอุณหภูมิสำหรับผู้เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่
ด้านสหรัฐจะเริ่มคัดกรองเที่ยวบินจากอู๋ฮั่นที่เข้าไปยังสนามบินซานฟรานซิสโกและสนามบินเจเอฟเคในนิวยอร์ก ซึ่งรับเที่ยวบินตรงทั้งคู่ รวมถึงสนามบินลอสแองเจลีส อันเป็นจุดใหญ่ที่มีการเปลี่ยนเที่ยวบิน
ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้มีการคัดกรองอย่างเข้มงวด ในช่วงที่คาดว่าคนจีนจำนวนมากจะเดินทางไปต่างประเทศช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะมายังประเทศต่างๆ ในเอเชีย
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่าไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าไวรัสโคโรนาจะติดต่อจากคนสู่คน ขณะที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของยุโรประบุว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีความคล้ายคลึงกับโคโรนาไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส แต่ต้องมีการวิเคราะห์ลักษณะทางพันธุกรรมเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เมื่อปี 2546 โรคซาร์สได้เริ่มระบาดในจีนและลุกลามไปทั่วโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 774 ราย ในปีเดียวกันเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะชาวต่างชาติหลีกเลี่ยงการเดินทางไปจีน ส่วนคนในจีนก็ไม่ค่อยออกไปนอกบ้านเพื่อชอปปิง กินอาหาร และทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อความบันเทิง
หัวหน้าฝ่ายวิจัยของสถาบันวิจัยมิซูโฮะ ระบุว่ายังต้องดูกันว่าสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะเป็นอย่างไร แต่หากนำไปสู่การเจ็บป่วยแบบเดียวกับโรคซาร์สก็แน่นอนว่าจะเป็นความเสี่ยงขาลงสำหรับเศรษฐกิจจีน
หากจำนวนนักเดินทางต่างชาติในจีนลดลง ก็แน่นอนว่าจะกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว นอกจากนั้น คนจีนเองอาจพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีคนเยอะ อย่างห้างสรรพสินค้า ซึ่งก็จะบั่นทอนการบริโภคส่วนบุคคล โดยยอดขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค มีสัดส่วนประมาณ 40% ของจีดีพีจีน
ยิ่งกว่านั้น หากต่างชาติวิตกเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ก็อาจเริ่มเลิกซื้อสินค้าจีนและชะลอการเข้าไปลงทุน ดังนั้นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จึงอาจสร้างความปวดหัวแก่เศรษฐกิจจีน ในช่วงที่กำลังต้องการแรงส่ง
นักเศรษฐศาสตร์บางคนมองว่าญี่ปุ่นก็อาจพลอยเจอหางเลขไปด้วย เพราะคาดว่าจะมีผู้คนจำนวนมาก รวมถึงชาวจีน เดินทางไปกรุงโตเกียวเพื่อชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ช่วงกลางปีนี้
ข้อมูลจาก Ctrip.com ผู้ให้บริการท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน ระบุว่าญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวจีน พอๆ กับสิงคโปร์ ไทย และมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มหกรรมกีฬาครั้งใหญ่กำลังจะมีขึ้น รัฐมนตรีสาธารณสุขจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ยืนยันว่าทั้งสามประเทศจะแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโรคกันอย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน แถลงเมื่อสุดสัปดาห์ว่ายังไม่พบต้นตอของไวรัส และยังอธิบายเส้นทางการติดต่อของไวรัสไม่ได้ครบถ้วน แต่การระบาดมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับตลาดขายอาหารทะเลในเมืองอู๋ฮั่น อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อบางรายบอกว่าไม่เคยไปตลาดแห่งนี้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่าไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าไวรัสระบาดจากคนสู่คนได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ไม่สามารถตัดทิ้งความเป็นไปได้ของการติดเชื้อจากคนสู่คน