ผู้เขียน หัวข้อ: พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 20 มกราคม 2563 - 26 มกราคม 2563  (อ่าน 200 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82024
    • ดูรายละเอียด
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า   ระหว่างวันที่ 20 มกราคม 2563 - 26 มกราคม 2563


การคาดหมาย                  ในช่วงวันที่ 20 - 23 ม.ค. 63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยบริเวณภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-15 องศาเซลเซียส  ส่วนภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกตามบริเวณชายฝั่ง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 26 ม.ค. 63  ภาคเหนือตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้าข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 20 - 23 ม.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ รักษาสุขภาพเนื่องสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย                   
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ในช่วงวันที่ 20 - 23 ม.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง ประกอบกับคลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะพัดผ่านประเทศเมียนมาเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกเกิดขึ้น ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 26 ม.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง และเคลื่อนที่ลงสู่ทะเลจีนใต้มากขึ้น ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิสูงขึ้น และมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ในขณะที่คลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนได้เคลื่อนผ่านออกไปปกคลุมประเทศลาวและเวียดนาม ทำให้ภาคเหนือมีอุณหภูมิลดลง และบริเวณยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้
ภาคเหนือ                  ในช่วงวันที่ 20 - 21 ม.ค. 63 จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-14 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 22 - 26 ม.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 10-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส
                 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ                  ในช่วงวันที่ 20 - 21 ม.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 22 - 26 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
                 
ภาคกลาง                  ในช่วงวันที่ 20 - 21 ม.ค. 63 เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่  22 - 26 ม.ค. 63 เมฆบางส่วนกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
                 
ภาคตะวันออก                  เมฆเป็นส่วนมากโดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
                 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)                  ในช่วงวันที่ 20 - 22 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่  ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร
 บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 ส่วนในช่วงวันที่  23 - 26 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
 ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร
 ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
                 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)                  ในช่วงวันที่ 20 - 22 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 26 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
                 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล                  เมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
                 
กรมอุตุนิยมวิทยา  ออกประกาศ 20 มกราคม 2563
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2020, 09:06:23 AM โดย Rakayang.Com »