ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ  (อ่าน 484 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82381
    • ดูรายละเอียด

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

เผยแพร่: 28 ก.พ. 2563 08:54   ปรับปรุง: 28 ก.พ. 2563 10:06   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ก.พ. 2563

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 26,000 จุดเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ดิ่งทะลุแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 3,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกต่อข่าวการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างของไวรัสโควิด-19 โดยล่าสุดสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายแรกที่ไม่ทราบต้นตอของการติดเชื้อ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการแพร่ระบาดในชุมชนเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้ และอิหร่าน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,766.64 จุด ร่วงลง 1,190.95 จุด หรือ -4.42% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,978.76 จุด ลดลง 137.63 จุด หรือ -4.42% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,566.48 จุด ลดลง 414.29 จุด หรือ -4.61%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดดิ่งลงอีกครั้งเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะแพร่ระบาดเป็นวงกว้างทั่วโลก (pandemic) หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างมากนอกประเทศจีน และอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ การเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรของบริษัทชั้นนำในยุโรปถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.75% ปิดที่ 389.45 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,495.60 จุด ร่วงลง 188.94 จุด หรือ -3.32%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,367.46 จุด ร่วงลง 407.42 จุด หรือ -3.19% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,796.40 จุด ร่วงลง 246.07 จุด หรือ -3.49%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะระบาดเป็นวงกว้างทั่วโลก (pandemic) หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนพุ่งขึ้นมากกว่าในประเทศจีนซึ่งเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดแล้วในขณะนี้ นอกจากนี้ ท่าทีที่แข็งกร้าวของอังกฤษในการเจรจาการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,796.40 จุด ลดลง 246.07 จุด หรือ -3.49%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) โดยทำสถิติร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เพิ่มขึ้นนอกประเทศจีนในขณะนี้จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 1.64 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 47.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2562

สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 52.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเริ่มเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างหนัก

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. ขยับลง 60 เซ็นต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,642.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 17.9 เซ็นต์ หรือ 1% ปิดที่ 17.735 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 9.3 ดอลลาร์ หรือ 1.02% ปิดที่ 905.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 44.90 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,711.70 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.95 เยน จากระดับ 110.22 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9699 ฟรังก์ จากระดับ 0.9754 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3365 ดอลลาร์แคนดา จากระดับ 1.3318 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0986 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0898 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2892 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2912 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6584 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6556 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 25,766.64 จุด ลดลง 1,190.95 จุด, -4.42%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,978.76 จุด ลดลง 137.63 จุด, -4.42%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 8,566.48 จุด ลดลง 414.29 จุด, -4.61%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,367.46 จุด ลดลง 407.42 จุด, -3.19%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,796.40 จุด ลดลง 246.07 จุด, -3.49%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,495.60 จุด ลดลง 188.94 จุด, -3.32%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 39,745.66 จุด ลดลง 143.30 จุด, -0.36%



ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,111.70 จุด ลดลง 5.82 จุด, -0.19%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,505.59 จุด เพิ่มขึ้น 10.40 จุด, +0.70%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,535.69 จุด ลดลง 153.23 จุด, -2.69%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,778.62 จุด เพิ่มขึ้น 82.13 จุด, +0.31%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,967.84 จุด เพิ่มขึ้น 58.00 จุด, +0.84%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,991.33 จุด เพิ่มขึ้น 3.40 จุด, +0.11%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,054.89 จุด ลดลง 21.88 จุด, -1.05%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 21,948.23 จุด ลดลง 477.96 จุด, -2.13%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 11,292.17 จุด ลดลง 141.45 จุด, -1.24%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,657.90 จุด ลดลง 50.20 จุด, -0.75%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,737.40 จุด ลดลง 53.30 จุด, -0.78%