น้ำมันดิ่งหลังสหรัฐปรับลดคาดการณ์/ทองคำย่อหลังดีดตัวแรงวานนี้/หุ้นสหรัฐพลิกกลับมาลบ
8 เมษายน 2563 ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
***น้ำมัน ร่วง 2.45 ดอลลาร์
สหรัฐปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันฉุดเวสต์เท็กซัสดิ่ง ขณะรมว.พลังงานกลุ่มจี20 เตรียมประชุมทางไกลวันศุกร์นี้เพื่อหาทางพยุงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 2.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 23.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 31.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) ปรับลดประมาณการราคาน้ำมันของทั้งสัญญาเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ลง นอกจากนี้ ยังปรับลดประมาณการกำลังผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลง 9.5% เหลือ 11.76 ล้านบาร์เรลต่อวัน น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
ขณะสื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มจี20 จะจัดการประชุมนัดพิเศษทางวิดีโอในวันศุกร์นี้(10เม.ย.) เพื่อที่จะรับประกันเสถียรภาพของตลาดพลังงาน โดยการประชุมรมว.พลังงานจี20 ครั้งนี้จัดโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประธานจี20 ในปีนี้ ขณะที่ซาอุดีอาระเบียกำลังเผชิญกับการทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย
การประชุมจี20 จัดขึ้น หลังจากการประชุมทางไกลในวันพฤหัสบดี (9เม.ย.)ระหว่างกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตรซึ่งรวมถึงรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับลดการผลิตน้ำมัน
***ราคาทองย่อตัว-นักลงทุนลุ้นผลกระทบทางศก.โควิด-19
ราคาทองย่อตัว ขณะนักลงทุนจับตาผลกระทบทางศก.โควิด-19 แม้จะหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ขานรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น
ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดวันอังคาร(7เม.ย.)ย่อตัวลง ขณะที่นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ขานรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น และนักลงทุนยังชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19 กับแนวโน้มที่จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วง 10.20 ดอลลาร์ ปิดที่ราคา 1,683.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง 0.5% สู่ระดับ 984.26 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี
ขณะที่ทางการจีนแถลงว่า นับจนถึงวันที่ 6 เม.ย. จีนไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโควิด-19 ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่เกาหลีใต้รายงานยอดผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 50 รายเป็นวันที่ 2
ส่วนที่นครลอส แองเจลิส รวมทั้งเคาน์ตี้ลอส แองเจลิส รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 7% ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการรายงานตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนต์เพียงหนึ่งหลัก นับตั้งแต่ที่มีการรายงานตัวเลขดังกล่าวในเดือนมี.ค.
***หุ้นสหรัฐปิดลบในกรอบแคบขณะตลาดยังจับตาโควิด-19ระบาด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร(7เม.ย.) ปรับตัวร่วงลงในกรอบแคบๆ หลังมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มแผ่วลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 26.13 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 22,653.86 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.27 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,659.41 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 25.98 จุด หรือ 0.33 % ปิดที่ 7,887.26 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด โดยมีข่าวดีคือหลายประเทศเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง ซึ่งนักลงทุนมองว่าตลาดจะผันผวนต่อไปจนกว่าสถานการณ์ต่างๆจะมีความชัดเจนขึ้น
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์ โดยมีบริษัทยามากถึง 10 แห่งกำลังทำการทดลองยาที่ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 ขณะที่องค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) ระบุว่า การวิจัยเพื่อพัฒนายาและวัคซีนที่ใช้ต้านโควิด-19 มีความคืบหน้าอย่างมาก
นายเกรแฮม เทอร์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไฟลท์ เซนเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย กล่าวว่า การเดินทางภายในประเทศในอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะกลับสู่ภาวะปกติในเดือนมิ.ย. หากความพยายามในการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประสบความสำเร็จ แต่นายเทอร์เนอร์ ก็คาดว่า การเดินทางระหว่างประเทศจะยังคงถูกระงับต่อไปอีก 6 เดือน
