STGT ถุงมือยางทองคำ

[Rakayang.Com]

STGT ถุงมือยางทองคำ

ไทยเสี่ยง!หุ้นโควิดร้อน เขย่าSTGT-STA-TQM




STGTยอดซื้อถึงกลางปี64 หวั่นคู่แข่งเร่งผลิตชิงตลาด
ดูข้อมูลบริษัท
หุ้นน้องใหม่ถุงมือยางอย่าง STGT วันนี้กลายเป็นหุ้นขวัญใจชาวหุ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับแต่เข้ามาทำการซื้อขายไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่าน จากราคาไอพีโอ 34 บาท วันนี้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมากว่า 100% นับว่าเหนือความหมายไปไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนักลงทุนสถาบันกองทุนและรายย่อยทั่วไปต่างเข้าร่วมซื้อขายกันอย่างคึกคัก จนวอลุ่มทะลักมากมาย

อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปก่อนที่หุ้น STGT จะเข้าเทรด คงไม่มีนักลงทุนคนไหนคิดว่าหุ้นตัวนี้จะร้อนแรงมาได้จนถึงวันนี้ จะด้วยราคาเสนอขายไอพีโอ ที่ 34 บาทต่อหุ้น บนค่า พีอีเรโชกว่า 57 เท่า จัดว่าไม่ใช่ของถูก อีกทั้ง บทวิเคราะห์ที่มีออกมาก่อนเทรด มีการประเมินราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐานกันแถว 40 กว่าบาทเท่านั้น




[/size]ขณะที่ล่าสุด นักวิเคราะห์ได้มีการประเมินราคาเป้าหมายของ STGT กันใหม่ โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ราว 85 บาท ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด ให้ราคาเป้าหมายใหม่ ที่ 111 บาท ซึ่งเป็นราคาเป้าหมายสูงที่สุด โดยคาดว่าผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดด เนื่องจาก STGT ได้รับอานิสงส์จากวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการถุงมือยางโดยเฉพาะถุงมือยางทางการแพทย์เพิ่มขึ้น จนผลิตไม่ทันตามความต้องการของตลาดโลก ขณะที่ราคาสินค้าที่จำหน่ายก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปี  ทำให้คาดหมายว่า ยอดการขาย และผลกำไรจะเติบโตสูงต่อไปอีกจากบทวิเคราะห์ล่าสุด พอจะเห็นได้ว่าในอนาคตการเติบโตของ STGT ยังมีอยู่อีกมาก และน่าจะทำให้ค่าพีอีเรโช ที่ปัจจุบันเทรดกันอยู่ 120 เท่า จะลดลงมาเหลือราว 20-30 เท่า นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ราคาหุ้นของ STGT ยังปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะถูก ตลท. ให้ทำการซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance เท่านั้นก็ตาม แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความร้อนแรงของหุ้นให้ลดลงซักเท่าไหร่นักอย่างไรก็ตาม บทพิสูจน์ว่าหุ้น STGT จะยังร้อนแรงต่อไปได้อีกแค่ไหน แม้ช่วงนี้ราคาจะมีการอ่อนตัวลงมาบ้าง คงต้องไปวัดกันที่ผลงานที่กำลังจะประกาศออกมาสำหรับไตรมาส 2/63 ว่าจะเติบโตก้าวกระโดดอย่างที่นักวิเคราะห์มองกันแค่ไหน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 ที่มีกำไรสุทธิ 421.89 ล้านบาท เกือบจะเท่ากับ กำไรที่ทำได้ทั้งปี 2562 ที่ 634.30 ล้านบาททั้งนี้ หลัง STGT เข้าตลาดมาแล้วได้เงินจากการระดมทุนไปราว 14,900 ล้านบาท โดยมีแผนจะขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีกำลังผลิตติดตั้ง 32,619 ล้านชิ้น และภายในปี 2567 จะขยายกำลังการผลิตติดตั้งเป็นมากกว่า 50,000 ล้านชิ้น และในปี 2571 จะขยายกำลังการผลิตเป็น 70,000 ล้านชิ้น จากนั้นจะขยายกำลังการผลิตเป็น 100,000 ล้านชิ้น ในปี 2575 สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตในอนาคตอย่างมีนัย แม้จะไม่มีการระบาดของโควิด-19 เข้ามาก็ตามสรุปว่า หุ้น STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางอันดับหนึ่งในประเทศไทย และอันดับต้นๆของโลก ยังมีแนวโน้มของการเติบโตในอนาคตที่สูง จากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด และยังได้ประโยชน์โดยตรงจากวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ ประกอบกับความคาดหวังที่สูงของนักลงทุนที่มองในหุ้นตัวนี้ โอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องมีความเป็นไปได้สูงมาก อย่างไรก็ดี นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวพุ่งขึ้นมาสูงมาก จากไอพีโอ ความเสี่ยงที่นักลงทุนที่มีต้นทุนต่ำกว่าจะขายทำกำไรออกมาก็เป็นไปได้ไม่น้อย แต่ด้วยผลงานที่คาดว่าจะเติบโตอย่างมากในอนาคต แต่ด้วยความที่เป็นหุ้นน้องใหม่ที่ยังสด นักลงทุนจึงยังให้ความสนใจอยู่อย่างต่อเนื่อง และได้กลายเป็น ?ถุงมือยางทองคำ? ไปแล้ว โชคดีครับรายงาน : ธิดารัตน์ เห็นพร้อม


(ทันเหตุการณ์ กับสถานการณ์มีผลกระทบกับ "ราคายาง" ต้องกดติดตามที่นี่ที่เดียวเท่านัั้น)



มีสมาชิกสอบถามเกี่ยวกับโปร พรีเมี่ยมไอดีมีอีกไหม จนท.จะแจ้งโปรใหม่ให้ครับ
ใครที่ต้องการต่ออายุที่มีโปรทักกลับที่แชทนี้/ใครที่ยังไม่มีไอดีและยังไม่เคยสมัครเข้าไปแจ้งสมัครได้ครับที่ไลน์ >> https://lin.ee/7DBOMZD
::::ดูวิธีการสมัครและอัปเกรดได้ที่นี่ http://rakayang.net/vip/howtoregisterpremiumid.php
:::สอบถามเกี่ยวกับพรีเมี่ยมไอดี(วิธีสมัคร สมัครผ่านไลน์) กดแอดไลน์ >> https://line.me/ti/p/oOaV5zv6N2[/color]