***'ดาวโจนส์' ปิดบวก 160 จุด ขานรับ 'เฟด' คงดอกเบี้ย
30 กรกฎาคม 2563
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นในวันพุธ (29 ก.ค.) หลัง "เฟด" คงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำใกล้ 0% ต่อไป
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 26,539.57 จุด เพิ่มขึ้น 160.29 จุด (0.61%) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,258.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.00 จุด (1.24%) ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,542.94 จุด เพิ่มขึ้น 140.85 จุด (1.35%)
ตลาดวอลล์สตรีทปิดแดนบวก หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่าจะใช้ทุกเครื่องมือที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ แต่เตือนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) 2 วันว่า เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับใกล้ 0% ต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าเศรษฐกิจสามารถยืนหยัดรับมือกับวิกฤติโรคระบาดใหญ่โควิด-19 และมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานระดับสูงสุดและเสถียรภาพด้านราคา
***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 8.8 ดอลล์ ก่อนนักลงทุนรู้ผลประชุมเฟด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,953.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.1 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 24.321 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 27.7 ดอลลาร์ หรือ 2.81% ปิดที่ 958.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 104.30 ดอลลาร์ หรือ 4.4% ปิดที่ 2,261.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ และทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 9 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในขณะที่รอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ หลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายแล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดได้แถลงผลการประชุม โดยมีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยืนยันว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เฟดมีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% สู่ระดับ 93.4759 เมื่อคืนนี้
***น้ำมัน WTI ปิดบวก 23 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเกินคาด
ข่าวต่างประเทศ Thursday July 30, 2020 06:47 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 23 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 41.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 43.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวก หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 10.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล
ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 23 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเกินคาด
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค.
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
ข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ใกล้แตะระดับ 17 ล้านราย และยอดผู้เสียชีวิตเกินกว่า 664,000 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐยังคงติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อเกือบ 4,500,000 ราย เสียชีวิตกว่า 150,000 ราย