ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563  (อ่าน 640 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82352
    • ดูรายละเอียด
***ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 357.96 จุด รับความหวังสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.
          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ทำเนียบขาวแสดงท่าทีพร้อมเจรจากับแกนนำในสภาคองเกรสอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,791.44 จุด เพิ่มขึ้น 357.96 จุด หรือ +1.30% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,360.47 จุด เพิ่มขึ้น 9.19 จุด หรือ +0.27% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,968.36 จุด ลดลง 42.62 จุด หรือ -0.39%
          ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 7 เมื่อคืนนี้ หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดกว้างต่อการเจรจาครั้งใหม่กับแกนนำพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมกับคาดการณ์ว่า รัฐบาลและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หากพรรคเดโมแครต มีเหตุมีผล
          ทางด้านปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความล่าสุดว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ต้องการที่จะพบกับเขาเพื่อทำข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
          นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งให้ขยายระยะเวลาในการให้เงินช่วยเหลือผู้ว่างงานจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ในอัตรา 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ หลังจากที่โครงการช่วยเหลือดังกล่าวได้หมดอายุลงในปลายเดือนที่แล้ว
          หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน ทะยานขึ้น 3.38% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.46% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 8.84% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 6.67% หุ้นอาปาเช คอร์ป พุ่งขึ้น 4.76%
          หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นโบอิ้ง ทะยานขึ้น 5.52% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 5.29% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 4.38% หุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 1.96%
          หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง และเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.99% หุ้นเฟซบุ๊ก ดิ่งลง 2.03% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.29% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) ร่วงลง 3.08%
          หุ้นอีสต์แมน โกดัก ทรุดลง 28.13% หลังจากนางอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกสหรัฐ ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เพื่อให้มีการตรวจสอบเรื่องการซื้อขายหุ้นโกดักโดยใช้ข้อมูลภายใน  (insider trading) เนื่องจากในวันก่อนที่จะมีการประกาศข้อตกลงดังกล่าว มีการซื้อขายหุ้นโกดักในปริมาณมาก ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น ทำให้ผู้บริหารของบริษัทได้รับผลประโยชน์อย่างมาก โดยบางรายได้รับสิทธิในการซื้อขายล่วงหน้า (options) หนึ่งวันก่อนการประกาศข้อตกลงเงินกู้ดังกล่าว
          นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยรายงานล่าสุดระบุว่า รัฐบาลจีนประกาศคว่ำบาตรนักการเมืองสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน และนายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เพื่อตอบโต้ที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของจีนและฮ่องกง
          สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 518,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.9 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.1% จากระดับ 3.9% ในเดือนพ.ค.
          ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ค. จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ค., ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน



***'ราคาทอง' พุ่งกว่า 11 ดอลล์ วิตกตึงเครียดสหรัฐ-จีน

11 สิงหาคม 2563
ราคาทองคำฟิวเจอร์พุ่งกว่า 11 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (10 ส.ค.) หลังจีนใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐ ตอบโต้ที่สหรัฐออกมาตรการคล้ายกันต่อเจ้าหน้าที่ฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่สัปดาห์ก่อน

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือน ธ.ค. ในตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 11.70 ดอลลาร์ (0.6%) ปิดที่ 2,039.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำกลับมาทะยานอีกครั้งหลังปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (7 ส.ค.) ขานรับกรณีกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงวานนี้ (10 ส.ค.) ว่า ปักกิ่งตัดสินใจใช้มาตรการคว่ำบาตรกับชาวอเมริกัน 11 คนที่ประพฤติชั่วร้ายในเรื่องเกี่ยวกับฮ่องกง เพื่อตอบโต้การกระทำที่ไม่ถูกต้องของสหรัฐ แต่ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดของมาตรการดังกล่าว

ชาวอเมริกันที่ถูกคว่ำบาตร รวมไปถึง ส.ว.พรรครีพับลิกันอย่าง นายเท็ด ครูซ รัฐเทกซัส นายมาร์โก รูบิโอ รัฐฟลอริดา นายทอม คอตตอน รัฐอาร์คันซอ นายจอช ฮาวลีย์ รัฐมิสซูรี และนายแพต ทูมี รัฐเพนซิลเวเนีย ส.ส.พรรครีพับลิกันอย่าง นายคริส สมิธ รัฐนิวเจอร์ซี และคนในองค์กรนอกภาครัฐ (เอ็นจีโอ) และกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายคน

รอยเตอร์ระบุว่า สมาชิกสภาสหรัฐเหล่านี้มักวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนใช้กับฮ่องกง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกง 11 คน รวมทั้งนางแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง ตามคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สั่งอายัดทรัพย์สินในสหรัฐของคนเหล่านี้ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกิจ ด้วยข้อกล่าวหาจำกัดเสรีภาพทางการเมืองในฮ่องกง

"ราคาสูงขึ้นตามข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีน ซึ่งทำให้มีแรงซื้อรอบใหม่เพิ่มขึ้นหลังขายทำกำไรเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว" นายปีเตอร์ คาร์ดิโล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดของบริษัทสปาร์ตัน แคปิตัล ซีเคียวริตีส์ กล่าว



***'ราคาน้ำมัน' ปรับขึ้น 2% รับแนวโน้มอุปสงค์เพิ่ม-ข้อมูลศก.จีนแกร่ง


11 สิงหาคม 2563


ราคาน้ำมันดิบโลกปรับขึ้นเกือบ 2% ในวันจันทร์ (10 ส.ค.) ขานรับซีอีโอบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่โลกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดจะเพิ่มขึ้น และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน


สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน ก.ย. ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 41.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 72 เซ็นต์ (1.8%) ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 44.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 59 เซนต์ (1.3%)


ราคาน้ำมันดิบโลกปรับขึ้นได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาด นายอามิน นาสเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทซาอุดี อารามโค คาดว่า อุปสงค์น้ำมันในเอเชียจะดีดตัวขึ้น ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์


นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่อิรักจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 4 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค.และ ก.ย.เพื่อชดเชยกับการที่ได้ผลิตน้ำมันเกินโควตาในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้


ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวในไม่ช้านี้ ดัชนีผู้บริโภคของจีนในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 2.7% จากปีที่แล้ว เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือน มิ.ย. ขณะที่ราคาเนื้อหมูและอุทกภัยในภาคใต้ของจีนเมื่อไม่นานนี้ดันราคาอาหารพุ่งพรวด


การเพิ่มขึ้นนี้ยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของสำนักต่าง ๆ สำนักสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ลดลง 2.4% ในเดือน ก.ค. เทียบกับปีที่แล้ว หลังลดลง 3% ในเดือน มิ.ย. ขณะที่ผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์โดยวอลล์สตรีทคาดว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตจีนจะลดลง 2.6%


นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการหารือกันในสัปดาห์ที่แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 11, 2020, 07:54:10 AM โดย Rakayang.Com »