ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 18 กันยายน พ.ศ. 2563  (อ่าน 666 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82044
    • ดูรายละเอียด
***น้ำมัน WTI ปิดบวก 81 เซนต์ รับโอเปกพลัสให้คำมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงลดผลิต

ข่าวต่างประเทศ Friday September 18, 2020 06:59 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 40.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 43.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

คณะกรรมการสังเกตการณ์ตลาดของกลุ่มโอเปกพลัสได้ประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติเห็นพ้องที่จะให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับประเทศสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง

ในการประชุมโอเปกพลัสครั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนส.ค. ไปจนถึงสิ้นปี 2563
 
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย กล่าวเปิดการประชุมออนไลน์ของคณะกรรมการสังเกตการณ์ตลาดของกลุ่มโอเปกพลัสเมื่อวานนี้ โดยเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตอย่างเคร่งครัด พร้อมกับกล่าวว่า คณะกรรมการควรหารือกันเกี่ยวกับผลกระทบที่ตลาดน้ำมันได้รับจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

รายงานระบุว่า กลุ่มโอเปกพลัสมีแผนที่จะจัดการประชุมรอบพิเศษในเดือนต.ค.นี้ หากราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล

ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 9.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ย.

***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง 20.6 ดอลล์ นักลงทุนผิดหวังผลประชุมเฟด
 
ข่าวต่างประเทศ Friday September 18, 2020 07:24 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม้คณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก 3 ปีก็ตาม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 20.6 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 1,949.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 37.6 เซนต์ หรือ 1.37% ปิดที่ 27.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 42.6 ดอลลาร์ หรือ 4.38% ปิดที่ 930.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 82.30 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 2,335.30 ดอลลาร์/ออนซ์
 
ทั้งนี้ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566

อย่างไรก็ดี นักลงทุนผิดหวังที่เฟดไม่ได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ ขณะที่ยังคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน

ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หากมีความจำเป็น

ทั้งนี้ BoE เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางได้รับการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบอย่างมีประสิทธิภาพ หากแนวโน้มเงินเฟ้อและการผลิตบ่งชี้ว่ามีความจำเป็นที่ BoE ต้องใช้นโยบายดังกล่าว

***ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 130.40 จุด จากแรงขายหุ้นเทคโนฯ,ข้อมูลศก.ซบเซา
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 2563)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,901.98 จุด ลดลง 130.40 จุด หรือ -0.47% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,910.28 จุด ลดลง 140.19 จุด หรือ -1.27% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,357.01 จุด ลดลง 28.48 จุด หรือ -0.84%
          นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ลองโบว์ แอสเซท แมเนจเมนท์ ในรัฐโอกลาโฮมา กล่าวว่า นักลงทุนยังคงเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนมองว่า การที่คณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกนานถึง 3 ปีนั้น สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเฟดมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดก็ตาม
          ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นายพาวเวลได้แสดงความกังวลว่า ทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้ายังคงมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่อัตราว่างงานก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก เมื่อพิจารณาจากอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน (labor force participation) ที่ปรับตัวลดลง
          นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ฉุดตลาดร่วงลง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 860,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 875,000 ราย แต่นักลงทุนมองว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังอยู่ในระดับที่สูง
          ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 5.1% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 1.416 ล้านยูนิต หลังจากพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.478 ล้านยูนิต จากระดับ 1.492 ล้านยูนิตในเดือนก.ค.
          หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ถูกเทขายอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม FAANG โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 3.3% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.6% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ร่วงลง 2.25% หุ้นเน็ตฟลิตซ์ ร่วงลง 2.82% หุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วงลง 1.66%
          หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 2.9% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ปรับตัวลง 1.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 1.76% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 1.05% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวลง 1.06%
          หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากนายแลร์รี คัล์ป ซีอีโอของจีอีได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
          หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 3.7% หลังมีรายงานว่าฟอร์ดเริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ F-150 ซึ่งเป็นรถปิคอัพรุ่นใหม่ ในโรงงานที่รัฐมิชิแกน
          สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 18, 2020, 08:22:06 AM โดย Rakayang.Com »