ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ  (อ่าน 772 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82381
    • ดูรายละเอียด

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 25, 2020 07:39 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 พ.ย. 2563

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 30,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) ขานรับความชัดเจนของทิศทางการเมืองสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,046.24 จุด เพิ่มขึ้น 454.97 จุด หรือ +1.54% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,635.41 จุด เพิ่มขึ้น 57.82 จุด หรือ +1.62% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,036.79 จุด เพิ่มขึ้น 156.16 จุด หรือ +1.31%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ในยุโรป และตลาดยังได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการมีวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อย่างเร็วที่สุดในต้นปีหน้า ซึ่งเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.91% ปิดที่ 392.39 จุด

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,558.42 จุด เพิ่มขึ้น 66.27 จุด หรือ +1.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,292.44 จุด เพิ่มขึ้น 165.47 จุด หรือ +1.26% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,432.17 จุด เพิ่มขึ้น 98.33 จุด หรือ +1.55%

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างราบรื่น

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.31% สู่ระดับ 92.2249 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9119 ฟรังก์ จากระดับ 0.9122 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3004 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3079 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 104.56 เยน จากระดับ 104.49 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1883 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1840 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3352 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3323 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7354 ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7289 ดอลลาร์ออสเตรเลีย



-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือนเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน รวมทั้งการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้กับนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.85 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 44.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2563

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 47.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2563

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความราบรื่นในการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีของสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 33.2 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 1,804.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 33.3 เซนต์ หรือ 1.41% ปิดที่ 23.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 26.6 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 958.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 2,352.20 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เร็วขึ้น หลังจากมีความคืบหน้าอย่างมากเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,432.17 จุด เพิ่มขึ้น 98.33 จุด หรือ +1.55%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 30,046.24 จุด เพิ่มขึ้น 454.97 จุด, +1.54%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,635.41 จุด เพิ่มขึ้น 57.82 จุด, +1.62%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 12,036.79 จุด เพิ่มขึ้น 156.16 จุด, +1.31%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,292.44 จุด เพิ่มขึ้น 165.47 จุด, +1.26%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,432.17 จุด เพิ่มขึ้น 98.33 จุด, +1.55%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,558.42 จุด เพิ่มขึ้น 66.27 จุด, +1.21%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 44,523.02 จุด เพิ่มขึ้น 445.87 จุด, +1.01%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,891.63 จุด เพิ่มขึ้น 42.85 จุด, +1.50%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,578.39 จุด ลดลง 19.09 จุด, -1.20%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,701.03 จุด เพิ่มขึ้น 48.27 จุด, +0.85%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,588.20 จุด เพิ่มขึ้น 102.00 จุด, +0.39%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,402.82 จุด ลดลง 11.67 จุด, -0.34%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,617.76 จุด เพิ่มขึ้น 15.17 จุด, +0.58%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,644.10 จุด เพิ่มขึ้น 82.50 จุด, +1.26%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,855.50 จุด เพิ่มขึ้น 83.50 จุด, +1.23%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 26,165.59 จุด เพิ่มขึ้น 638.22 จุด, +2.50%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 13,807.13 จุด ลดลง 70.88 จุด, -0.51%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,108.67 จุด ลดลง 69.95 จุด, -0.97%