ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 18 กันยายน 2564  (อ่าน 399 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82374
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 64 เซนต์ เหตุดอลล์แข็งค่ากดดันราคา
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 2564)--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันดิบที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ
          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 64 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 71.97 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 3.2% ในรอบสัปดาห์นี้
          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 75.34 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 3.3% ในรอบสัปดาห์นี้
          ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันสหรัฐถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.28% แตะที่ 93.1881  เมื่อคืนนี้
          นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกซึ่งฟื้นตัวจากผลกระทบของพายุเฮอริเคนไอดานั้น เป็นปัจจัยถ่วงตลาดน้ำมันด้วย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช โทร.Tel. 02-253-5000 ต่อ 363 อีเมล์: kallayanee.c@infoquest.co.th--


ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $5.3 เหตุดอลล์แข็งค่ากดดันราคา
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 2564)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงต่อเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
          ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,751.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำลดลง 2.3% และปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 45.7 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 22.337 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 930.6 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 37.70 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,983.80 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว โดยถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้
          ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.28% แตะที่ 93.1881  เมื่อคืนนี้
          ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
          อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำได้แรงหนุนบางส่วนจากการที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 71 ในเดือนก.ย. จากระดับ 70.3 ในเดือนส.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช โทร.Tel. 02-253-5000 ต่อ 363 อีเมล์: kallayanee.c@infoquest.co.th--


ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 166.44 จุด วิตกหลายปัจจัยกดดันตลาด
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 2564)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล, การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วขึ้น
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,584.88 จุด ลดลง 166.44 จุด หรือ -0.48%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,432.99 จุด ลดลง 40.76 จุด หรือ -0.91% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,043.97 จุด ลดลง 137.96 จุด หรือ -0.91%
          ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 0.1%, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.6% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.5%
          หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดลบ โดยกลุ่มวัสดุและสาธารณูปโภค ลดลง 2.06% และ 1.59% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่บวกขึ้น 0.07%
          หุ้นไฟเซอร์และโมเดอร์นา ปรับตัวลง 1.3% และ 2.4% ตามลำดับ หลังจากเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของสหรัฐได้ผลักดันเรื่องของการพิจารณาวัคซีนบูสเตอร์ไปให้กับคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ
          หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ร่วง 8.0% หลังบริษัทเปิดเผยแผนการลงทุนมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
          ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐถูกกดดันหลังจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรงตัวในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 71 ในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ย. จากระดับ 70.3 ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2554 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 72 โดยชาวอเมริกันได้ชะลอการใช้จ่าย ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
          ความวิตกเกี่ยวกับการเสนอปรับขึ้นภาษานิติบุคคลในสหรัฐจากปัจจุบันที่ระดับ 21% เป็น 26.5% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนนั้น ส่งผลกระทบต่อตลาดด้วย
          นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นนั้น กดดันหุ้นกลุ่มเติบโตซึ่งเป็นหุ้นนำตลาด
          บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดการในการปรับลดมาตรการ QE ของเฟด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช โทร.Tel. 02-253-5000 ต่อ 363 อีเมล์: kallayanee.c@infoquest.co.th--