ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 15 มกราคม 2565  (อ่าน 156 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82044
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 201.81 จุด ผิดหวังผลประกอบการแบงก์ใหญ่
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ม.ค. 2565)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (14 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มการเงินถ่วงตลาดลงอย่างหนัก หลังนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2564 ของธนาคารสหรัฐขนาดใหญ่ในช่วงเริ่มต้นฤดูเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ
          ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,911.81 จุด ลดลง 201.81 จุด หรือ -0.56%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,662.85 จุด เพิ่มขึ้น 3.82 จุด หรือ +0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,893.75 จุด เพิ่มขึ้น 86.94 จุด หรือ +0.59%
          ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 0.9%, ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 0.3% และดัชนี Nasdaq ติดลบ 0.3%
          ดัชนี S&P500 หุ้นกลุ่มธนาคาร ปิดร่วงลง 1.7% โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ดิ่งลง 6.26% หลังรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ และเตือนว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น, การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และรายได้จากการซื้อขาย จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
          หุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ร่วงลง 1.25% หลังรายงานผลกำไรไตรมาส 4/2564 ร่วงลง 26% ขณะที่หุ้นแบล็กร็อค อิงค์ ร่วงลง 2.2% หลังเปิดเผยรายได้รายไตรมาสต่ำกว่าคาด
          หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกและความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือนธ.ค.
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อาจทรงตัวในเดือนดังกล่าว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.
          ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ร่วงลง 3.1% ในเดือนธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า อาจเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนพ.ย.
          นอกจากนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนยังระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 68.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 1 ทศวรรษ จากระดับ 70.6 ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 70.0
          หุ้นโกลด์แมน แซคส์, หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส และหุ้นโฮม ดีโปท์ ปรับตัวลงด้วย
          อย่างไรก็ตาม หุ้น 4 จาก 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน
          หุ้นกลุ่มเติบโตที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มเทคโนโลยีปิดบวก 0.89% และหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร บวก 0.53%
          นักวิเคราะห์คาดว่า บริษัทในดัชนี S&P500 จะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 23.1% ในไตรมาส 4/2564
          หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่ง 3.68% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4/2564 เพิ่มขึ้นเกินคาด
          หุ้นลาสเวกัส แซนด์ส พุ่ง 14.2%, หุ้นเมลโค รีสอร์ท พุ่ง 16.6% และหุ้นวินน์ รีสอร์ท พุ่ง 8.6% หลังรัฐบาลมาเก๊าจำกัดจำนวนผู้ประกอบการคาสิโนรายใหม่ที่ได้รับอนุญาตดำเนินการได้ 6 ราย โดยมีระยะเวลาในการดำเนินงาน 10 ปี
          ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ (17 ม.ค.) เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช โทร.Tel. 02-253-5000 ต่อ 363 อีเมล์: kallayanee.c@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง 1.70 ดอลล์ ขานรับบรรยากาศซื้อขายสดใส
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ม.ค. 2565)--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (14 ม.ค.) และปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงสดใส หลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันที่จะเกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
          ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 83.82 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 6.2% ในรอบสัปดาห์นี้
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 86.06 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 5.3% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
          นายฟาติห์ บิโรล ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) แสดงความเชื่อมั่นเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า อุปสงค์น้ำมันแข็งแกร่งกว่าที่ผู้สังเกตการณ์ตลาดหลายคนคาดไว้ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าที่คาดไว้
          นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ และภาวะตึงตัวของตลาดน้ำมันช่วยหนุนราคาขึ้นด้วย
          นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในปีนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ผลิตน้ำมันต่ำกว่าโควตาที่กำหนด
          ทั้งนี้ ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 17 ม.ค. เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช โทร.Tel. 02-253-5000 ต่อ 363 อีเมล์: kallayanee.c@infoquest.co.th--


ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $4.9 เหตุดอลล์แข็งค่ากดดันราคา
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ม.ค. 2565)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (14 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ แรงขายทำกำไรก่อนวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ ถ่วงสัญญาทองคำลงด้วย โดยตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 17 ม.ค. เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
          ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,816.5 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 1.1%
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 24.4 เซนต์ หรือ 1.05% ปิดที่ 22.918 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 964.6 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 11.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,878.20 ดอลลาร์/ออนซ์
          ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้นมีราคาแพงขึ้น และไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
          ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.39% สู่ระดับ 95.1673
          อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังคงเป็นแรงหนุนต่อสัญญาทองคำ
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีก ดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อาจทรงตัวในเดือนดังกล่าว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.
          ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ร่วงลง 3.1% ในเดือนธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า อาจเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนพ.ย.
          ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 68.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 1 ทศวรรษ จากระดับ 70.6 ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 70.0
          ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันศุกร์ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐ ลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า เพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช โทร.Tel. 02-253-5000 ต่อ 363 อีเมล์: kallayanee.c@infoquest.co.th--