ผู้เขียน หัวข้อ: World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ คืนวันที่ 29 พ.ย.68  (อ่าน 81 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 90295
    • ดูรายละเอียด

***ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 289.30 จุด กลุ่มค้าปลีกเทคฯ หนุนตลาด

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 29, 2025 06:33 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 พ.ย.) ในการซื้อขายที่เบาบางเพราะตลาดปิดทำการเร็วกว่าปกติหลังวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,716.42 จุด เพิ่มขึ้น 289.30 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,849.09 จุด เพิ่มขึ้น 36.48 จุด หรือ +0.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,365.69 จุด เพิ่มขึ้น 151.00 จุด หรือ +0.65%

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มหลักของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น 1.32% และ 0.90% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มเฮลท์แคร์ ลดลง 0.50% โดยหุ้น Eli Lilly ร่วงลง 2.6%

หุ้น Intel ช่วยหนุนดัชนี S&P500 ด้วยการพุ่งขึ้น 10.2% หลังนักวิเคราะห์ของ TF International Securities ระบุว่า บริษัทจะเริ่มส่งมอบชิป M ให้บริษัท Apple ได้เร็วสุดในปี 2570

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 3.18%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.73% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 4.91%

ส่วนในรอบเดือนพ.ย.นั้น ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 พลิกกลับมาเป็นบวกเล็กน้อย แต่ Nasdaq ปิดลดลง 1.51% ซึ่งสะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นสูง ส่งผลให้นักลงทุนขายทำกำไรและลดการถือครอง

สำหรับบรรยากาศการซื้อขายได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดอีก 0.25% ในเดือนธ.ค. ซึ่งจะนับเป็นการปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามติดต่อกันหลังการประชุมในเดือนก.ย. และต.ค.

บรรดาเทรดเดอร์เริ่มเพิ่มความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย หลังจาก จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยังมีช่องว่างสำหรับการปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มเติมในระยะใกล้นี้

***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $52.60 คาดเฟดลดดอกเบี้ยเดือนหน้าหนุนแรงซื้อ

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 29, 2025 07:20 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ส่งผลให้ความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 52.60 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 4,254.90 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีเฟด โดยนักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า ตลาดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวต่อเนื่องไปถึงปี 2569 และเฟดมีความเป็นไปได้สูงที่จะปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดให้นักลงทุนกลับเข้ามาถือครองทองคำอีกครั้ง ซึ่งทองคำมักให้ผลตอบแทนที่ดีในภาวะดอกเบี้ยต่ำ

ถ้อยแถลงเชิงผ่อนคลายล่าสุดจากคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด และจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงหลังการปิดทำการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ตลาดมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยนักลงทุนประเมินว่ามีโอกาส 87% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ประเมินไว้ 50%

อย่างไรก็ตาม ความต้องการทองคำในตลาดเอเชียยังคงซบเซา ราคาที่อยู่ในระดับสูงทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง แม้จะเข้าสู่ฤดูกาลแต่งงานของอินเดียแล้วก็ตาม ส่วนในจีนนั้น การยกเลิกการยกเว้นภาษีสำหรับการซื้อทองคำก็ส่งผลลดทอนความต้องการเช่นกัน

***ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 10 เซนต์ จับตาประชุมโอเปกพลัส, เจรจารัสเซียยูเครน

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 29, 2025 07:04 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดเล็กน้อยในวันศุกร์ (28 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ต่อราคาน้ำมันท่ามกลางการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมถึงติดตามการประชุมของโอเปกพลัสในวันอาทิตย์นี้เพื่อหาสัญญาณการปรับเปลี่ยนกำลังการผลิต

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 58.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 62.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

แม้สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นราว 1% ตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ทั้งสองสัญญายังคงปิดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2566 เพราะตลาดคาดการณ์ว่าอุปทานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจนกดดันราคา

ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่เผยแพร่ในวันศุกร์ระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย. ทำให้ตลาดกังวลมากขึ้นว่าภาวะส่วนเกินอาจรุนแรงขึ้น โดยการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 44,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนดังกล่าว แตะระดับสถิติ 13.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ 35 รายคาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยในปี 2569 อยู่ที่ 62.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากคาดการณ์ในเดือนต.ค. ที่ 63.15 ดอลลาร์สหรัฐ โดยข้อมูลของ LSEG ชี้ว่า ปี 2568 น้ำมันดิบเบรนท์มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 68.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

สัญญาณที่ว่าการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซียอาจใกล้บรรลุผลเป็นแรงกดดันให้ราคาน้ำมันร่วงแรงเมื่อต้นสัปดาห์ แต่ราคาฟื้นตัวขึ้นตลอดสามวันที่ผ่านมา หลังการเจรจายังคงยืดเยื้อ โดยปัจจัยที่นักลงทุนจับตามองคือความไม่แน่นอนของข้อตกลง ซึ่งหากไม่เกิดขึ้นจริงอาจทำให้มาตรการคว่ำบาตรต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซียเข้มงวดขึ้นอีก

โอเปกพลัสมีแนวโน้มคงระดับการผลิตในการประชุมในวันอาทิตย์นี้ และจะหารือกลไกประเมินกำลังการผลิตสูงสุดของแต่ละประเทศ

ด้านซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก คาดว่าจะปรับลดราคาขายน้ำมันดิบสำหรับลูกค้าเอเชียในเดือนม.ค. เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากแรงกดดันจากภาวะอุปทานล้นตลาดและแนวโน้มผลผลิตส่วนเกิน