ถึงคราวรถ 'อีวีจีน' เลย์ออฟใหญ่ SAIC จ่อเลิกจ้างหลายพันคน
เรื่องราวโดย Bangkokbiznews ? 3 ชม. ? อ่าน 1 นาที
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า บริษัท "เอสเอไอซี มอเตอร์" (SAIC) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของทางการจีน มีแผนจะเลิกจ้างพนักงานหลายพันอัตราในปีนี้ ในบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่เป็นการผลิตร่วมกับค่าย "เจนเนอรัล มอเตอร์" (GM) จากสหรัฐ และค่าย "โฟล์กสวาเกน" (Volkswagen) จากเยอรมนี
รายงานระบุว่า SAIC จะลดพนักงานราว 30% ใน SAIC-GM ลดอีก 10% ใน SAIC-VW และจะลดพนักงานอีกมากกว่าครึ่งในบริษัท "ไรซิ่ง ออโต" (Rising Auto) ซึ่งเป็นบริษัทรถอีวีในเครือของ SAIC แต่การเลิกจ้างครั้งใหญ่นี้จะไม่ได้เกิดขึ้นแบบครั้งเดียวจบ ทว่าจะทยอยเลย์ออฟหลายระลอกภายในปีนี้ โดยการเลิกจ้างในบางส่วน เช่น SAIC-VW จะเป็นรูปแบบโครงการให้ออกโดยสมัครใจสำหรับพนักงานที่มีคะแนนวัดผลต่ำ
แม้ในหลายประเทศทั่วโลกจะมีการเลย์ออฟในอุตสาหกรรมรถยนต์อีวีกันไปอย่างต่อเนื่องแล้ว และบางบริษัทถึงขั้นยื่นล้มละลาย หลังจากที่ตลาดเริ่มชะลอตัวและมีการแข่งขันด้านราคากันอย่างหนัก โดยเฉพาะในตลาดจีน แต่การเลย์ออฟขนาดใหญ่ในบริษัทที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของนั้นเป็นเรื่องที่หาได้ยาก
รอยเตอร์สยังระบุว่า การเลย์ออฟใหญ่ครั้งนี้ยังสะท้อนถึงอุตสาหกรรมรถยนต์อีวีจีนที่ "บูมจนระเบิด" โดยบรรดาค่ายรถจีน เช่น SAIC ไปจนถึงค่ายรถต่างชาติกำลังเสียตลาดไปอย่างรวดเร็วให้กับ 2 เจ้าตลาดรายใหญ่อย่าง "เทสลา มอเตอร์" (Tesla) จากสหรัฐ และ "บีวายดี" (BYD) ของจีน
อย่างไรก็ตาม โฆษกของ SAIC ตอบโต้ว่า "การคาดเดา" ของรอยเตอร์สเรื่องการลดขนาดพนักงานนั้น "ไม่เป็นความจริง" และย้ำว่าบริษัทไม่ได้ตั้งเป้าที่จะลดจำนวนพนักงานด้วย โดยบริษัทเพิ่งรับพนักงานเพิ่มอีก 2,000 อัตรา ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เพื่อมุ่งเน้นด้านซอฟต์แวร์และรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) แต่ SAIC ไม่ได้ตอบคำถามเพิ่มเติมเรื่องแผนกลยุทธ์การลดพนักงานหรือความเป็นไปได้ที่จะคัดพนักงานที่มีการวัดผลต่ำออกไป
ด้านโฆษกของบริษัทจีเอ็มในจีนเปิดเผยในทำนองเดียวกันว่า ข่าวที่ SAIC-GM จะลดพนักงานลง 30% นั้นไม่ถูกต้อง แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่โฆษกบริษัทโฟล์กสวาเกนในจีนระบุเพียงว่า บริษัทไม่มีแผนเลย์ออฟ และข่าวที่ SAIC-VW จะลดพนักงานลง 10% ก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน
ทั้งนี้ SAIC ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในจีนมานานเกือบ 2 ทศวรรษ แต่ยอดขายในระยะหลังกลับลดลง โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมียอดขายลดลง 16% เมื่อเทียบปีที่แล้ว ขณะที่บริษัทมีการจ้างงานในบริษัทแม่และบริษัทในเครือทั้งหมดราว 2.07 แสนคน ณ สิ้นปี 2566
