ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ตุลาคม 14, 2014, 09:11:45 AM »'อำนวย'พบ'นายกฯ'ถกราคายาง ชงเน้นซัพพลายเพิ่มปริมาณ
13 ต.ค. 57 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ได้พานายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษานายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อหารือการแก้ปัญาราคายางพารา มีรายงานว่า นายอำนวย เป็นผู้ที่มีชื่อที่คาดว่าจะเข้ามารับตำแหน่ง รมช.เกษตร เพื่อช่วยงานนายปิติพงศ์ ในการแก้ปัญหาราคายาง และม็อบเกษตรกรต่าง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเข้าพบ นายอำนวย ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาราคายางพาราว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้เพิ่มมาตราการที่ 4 โดยการสร้างสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการเพื่อมีกำลังในการซื้อยาง ซึ่งตัวเลขงบประมาณในส่วนนี้คาดว่าไม่เกิน 1.5 หมื่นล้าน ทั้งนี้ ในการแก้ปัญหายางพาราที่ดีที่สุดนั้น ตนเชื่อว่าต้องใช้วิธีบริหารซัพพลาย หรือความต้องการขาย ไม่ใช่บริหารดีมาน หรือความต้องการซื้อ เนื่องจากผู้ที่ซื้อก็ต้องซื้ออย่างต่อเนื่องเหมือนกับการกินข้าว อีกทั้งให้เน้นการใช้ยางภายในประเทศให้มากขึ้น โดยตนอยากให้การใช้ยางภายในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 14 เปอร์เซ็นต์ เป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลา
นอกจากนี้ นายอำนวย เปิดเผยด้วยว่า เร็วๆ นี้จะมีการประชุมในระดับรัฐมนตรีของประเทศผลิตยางคือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยจะมีประเทศเวียดนาม และกัมพูชา เข้าร่วมด้วย เพื่อร่วมบริหารราคายางประเทศต่างๆ ในภูมิภาค
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 14 ตุลาคม 2557)
13 ต.ค. 57 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ได้พานายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษานายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อหารือการแก้ปัญาราคายางพารา มีรายงานว่า นายอำนวย เป็นผู้ที่มีชื่อที่คาดว่าจะเข้ามารับตำแหน่ง รมช.เกษตร เพื่อช่วยงานนายปิติพงศ์ ในการแก้ปัญหาราคายาง และม็อบเกษตรกรต่าง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเข้าพบ นายอำนวย ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาราคายางพาราว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้เพิ่มมาตราการที่ 4 โดยการสร้างสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการเพื่อมีกำลังในการซื้อยาง ซึ่งตัวเลขงบประมาณในส่วนนี้คาดว่าไม่เกิน 1.5 หมื่นล้าน ทั้งนี้ ในการแก้ปัญหายางพาราที่ดีที่สุดนั้น ตนเชื่อว่าต้องใช้วิธีบริหารซัพพลาย หรือความต้องการขาย ไม่ใช่บริหารดีมาน หรือความต้องการซื้อ เนื่องจากผู้ที่ซื้อก็ต้องซื้ออย่างต่อเนื่องเหมือนกับการกินข้าว อีกทั้งให้เน้นการใช้ยางภายในประเทศให้มากขึ้น โดยตนอยากให้การใช้ยางภายในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 14 เปอร์เซ็นต์ เป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลา
นอกจากนี้ นายอำนวย เปิดเผยด้วยว่า เร็วๆ นี้จะมีการประชุมในระดับรัฐมนตรีของประเทศผลิตยางคือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยจะมีประเทศเวียดนาม และกัมพูชา เข้าร่วมด้วย เพื่อร่วมบริหารราคายางประเทศต่างๆ ในภูมิภาค
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 14 ตุลาคม 2557)