My Community

ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวยางโดยตรง => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ กันยายน 12, 2014, 09:09:20 AM

หัวข้อ: เกษตรฯลุยแก้ปัญาหายางพาราทั้งระบบ
เริ่มหัวข้อโดย: Rakayang.Com ที่ กันยายน 12, 2014, 09:09:20 AM
เกษตรฯลุยแก้ปัญาหายางพาราทั้งระบบ


11 ก.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยถึงรายละเอียดแนวทางการพัฒนายางพาราทั้งระบบ โดยมีเป้าหมายการพัฒนาในด้านราคา  คุณภาพ  การเพิ่มมูลค่า  และประสิทธิภาพ  ประกอบด้วย 2 มาตรการ 9 แนวทาง  และ 12 โครงการ  คือ   โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราวงเงิน 5,000 ล้านบาท  โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) จะให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตและเพิ่ม ประสิทธิภาพการแปรรูปยางเบื้องต้น มีเป้าหมายสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จำนวน 245 แห่ง ระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี ตั้งแต่ 1 กันยายน 2557 ? 31 สิงหาคม 2567 แบ่งวงเงินออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 1.สินเชื่อเพื่อการลงทุนก่อสร้าง/ปรับปรุงโรงงาน (ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน ยางคอมปาวด์ น้ำยางข้น ยางเครป และผลิตภัณฑ์ยาง) วงเงินสินเชื่อ 3,500 ล้านบาท  ระยะเวลา 10 ปี  ช่วงระยะปีที 1 ถึงปีที่ 2 สถาบันเกษตรกรจะปลอดชำระต้นเงินกู้ แต่ต้องชำระดอกเบี้ยเงินกู้ทุกปี สถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี  2.สินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน วงเงิน 1,500 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี สถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี

         ส่วนเป้าหมายโครงการนี้จะช่วยลดความต้องการขายวัตถุดิบยางพาราในตลาด เพื่อรอจำหน่ายเมื่อเห็นว่ามีราคาที่เหมาะสม เดือนละไม่น้อยกว่า  111,990  ตัน  หรือปีละประมาณ  895,920  ตัน โดยคิดจากระยะเวลาการกรีดยางพาราปีละ 8 เดือน  สามารถเพิ่มมูลค่าจากการแปรรูปยางพาราของสถาบันเกษตรกรเดือนละไม่น้อยกว่า  274  ล้านบาท หรือปีละประมาณ  2,192  ล้านบาท (คิดจากระยะเวลาการกรีดยางพาราปีละ 8 เดือน) ซึ่งจากการวิเคราะห์ในเบื้องต้นพบว่าการเพิ่มมูลค่ายางพาราจำนวน  2,192  ล้านบาท  จากปริมาณยางพารา  895,920  ตัน  สามารถเฉลี่ยคืนจากการขายยางให้กับสมาชิกเพิ่มขึ้นได้อีกกิโลกรัมละ  2.44  บาท เกษตรกรชาวสวนยางที่เป็นสมาชิกสถาบันเกษตรได้รับประโยชน์จากโรงงานแปรรูป ยางพาราไม่น้อยกว่า 298,755  ราย  และสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจการแปรรูปยางพารา

         ขณะที่โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกร เพื่อรวบรวมยาง  มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับราคาโดยเพิ่มสภาพคล่อง ด้านการตลาด มีกลุ่มเป้าหมาย สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จำนวน 723 แห่ง วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท สถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1กันยายน 2557 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 การจ่ายเงินกู้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1กันยายน 2557 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน2558 และการชำระคืนเงินกู้ ไม่เกิน12 เดือน นับจากวันเริ่มโครงการ โดยไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2558   ซึ่งโครงการนี้จะช่วยชะลอความต้องการขายวัตถุดิบยางพาราในตลาด  ในปริมาณเดือนละไม่น้อยกว่า  87,500 ตัน  หรือปีละไม่น้อยกว่า  700,000 ตัน (คิดจากระยะเวลาการกรีดยางพาราปีละ 8 เดือน) หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของปริมาณยางที่ผลิตในประเทศ (ปีละ 3.5 ล้านตัน)  ช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยางที่เป็นสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไม่น้อยกว่า  500,000  ราย  มีแหล่งขายยางพาราในระดับพื้นที่  เป็นการช่วยลดต้นทุนการขนส่งมาจำหน่ายในตลาดกลางหรือแหล่งซื้อขายในเมือง อีกทั้งสามารถได้รับเงินจากการขายยางพาราให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ เข้าโครงการฯ ได้ทันที เกษตรกรชาวสวนยางจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบที่จะกรีดยางเป็นจำนวนมาก และช่วยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไม่น้อยกว่า  700 แห่ง  มีความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจการรวบรวมหรือรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรชาว สวนยาง  เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางมากยิ่งขึ้น

         สำหรับโครงการควบคุมปริมาณการผลิตตามแนวทางควบคุมพื้นที่ปลูกยาง  สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) จะสนับสนุนการโค่นยางเก่าที่ให้ผลผลิตไม่คุ้มค่า  ปีละ 4 แสนไร่  โดยเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่ายางพาราปีละ 1 แสนไร่  ระยะเวลา 7 ปี  ทำให้ลดพื้นที่ปลูกยางแบบถาวรได้ 7 แสนไร่  โดยปีแรกผลผลิตยางจะลดลงประมาณ 1.01 แสนตัน  และเมื่อครบปีที่ 7 จะลดผลผลิตยางได้ถึง 7.11 แสนตัน
นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมการถ่ายทอดความรู้ให้ชาวสวนยางใช้ทรัพยากรและปัจจัยการ ผลิตอย่างคุ้มค่า  สามารถใช้เทคโนโลยีเหมาะสมจัดการสวนยางและเน้นลดต้นทุนการผลิต  ส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรรายย่อยผ่านครูยาง  เพื่อให้ชาวสวนยางใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการสวนยาง  เก็บเกี่ยวผลผลิต  พัฒนาการผลิต  และส่งเสริมการแปรรูปเบื้องต้นเพื่อเพิ่มมูลค่ายาง และส่งเสริมให้เกษตรกรผู้รับการสงเคราะห์ระหว่างปี 2558 ? 2564 ปีละ 1.6 แสนไร่  ใช้ประโยชน์พื้นที่ว่างระหว่างแถวยาง  ปลูกพืชคลุมดิน/พืชแซมยาง  โดยสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 3 วงเงิน 120 ล้านบาท  ให้เกษตรกรใช้เป็นเงินทุนดำเนินการต่อไป


หนังสือพิมพ์แนวหน้า