My Community
ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวยางโดยตรง => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ ตุลาคม 20, 2014, 04:04:03 PM
-
บทสรุป ?แนวโน้มยางพารา? ไตรมาส 4/2014 (ต.ค.?ธ.ค.)
โดย...อ.ธีรวุฒิ อ่อนดำ ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
แนว โน้มผลผลิตยางธรรมชาติโดยรวมของโลกไตรมาสที่ 4/2014 ประกอบกับการประมาณการโดยใช้ข้อมูลสถิติที่ผ่านมา คาดว่าปริมาณผลผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มความต้องการใช้ยางธรรมชาติคาดว่า มีแนวโน้มชะลอตัวลง จากสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง และความกังวลในเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจโลก
ที่ สะท้อนผ่านการปรับลด GDP โลกปี 2014 ลงเหลือ 3.3% จากเดิม 3.4% และปรับลด GDP ปี 2015 ลงเหลือ 3.8% จากเดิม 4.0% ของกองทุนการเงินระหว่งประเทศ (IMF) ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับลด GDP ของ EU ลงเหลือ 0.8% จากเดิม 1.2% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และอุปสงค์ที่หดตัว ส่วนธนาคารโลก (World Bank) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ของจีนลงเหลือ 7.4% ในปี 2557 และ 7.2% ในปี 2558
ส่วน แนวโน้มผลผลิตของไทยในภาพรวมคาดว่า ปริมาณผลผลิตทั้งหมดของไทยยังถูกจำกัดด้วย มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในฝั่งจังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขณะที่แนวโน้มความต้องการใช้ยางพาราในประเทศ ในระยะสั้นอาจได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ผ่านการสนับสนุนสินเชื่อให้แก่องค์กร สถาบันเกษตรกร ตลอดจนภาคเอกชนในการแปรรูปยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่ในระยะยาวผลผลิตที่ได้อาจถูกจำกัดเพียงในประเทศเท่านั้น หากไม่มีมาตรการอื่นตามมาที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการส่งเสริมมาตรฐานคุณภาพสินค้า และการจัดหาตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น
ขณะที่สถานการณ์ ปัจจุบัน ธนาคารโลก (World Bank) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทย ปี 2014 เหลือ 1.5% จากเดิม 3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในอาเซียน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริโภค และการลงทุนในประเทศที่ฟื้นตัวช้า ส่วนธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับลดประมาณการ GDP ไทย ปี 2014 เหลือ 1.2% เช่นกัน
สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยไตรมาสที่ 4/2014 คาดว่าปริมาณการส่งออกของไทยขยายตัวในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสล่า สุด ขณะที่บทบาทของไทยในการเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกอาจลดความสำคัญลง จากการที่หลายประเทศหันไปปลูกยางพารา และเริ่มเก็บผลผลิตได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอตัวลง ส่งผลกดดันต่อทิศทางการส่งออกของไทยเพิ่มมากขึ้น
อย่าง ไรก็ตาม ทิศทางค่าเงินบาทที่ถือว่ายังอ่อนค่า เมื่อเทียบกับช่วงกลางปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนการส่งออกของไทย
ส่วน แนวโน้มราคายางในประเทศ คาดว่าจะยังคงเคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวโน้มขยับขึ้นในช่วงต้นไตรมาส ระหว่างเดือนตุลาคม ? พฤศจิกายน จากปริมาณผลผลิตโดยรวมที่ลดลง ด้วยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ในฝั่งจังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก
และอาจทำสถิติต่ำสุด ใหม่ในรอบ 5 ปีกว่า ต่ำกว่าระดับ 43.2/40.0 บาท/กก. (ยางแผ่นดิบ@ราคาท้องถิ่น) ในครึ่งหลังไตรมาส 4 ช่วงเดือนธันวาคม จากปริมาณผลผลิตที่กลับมาออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจต่างประเทศ และแนวโน้มผลผลิตโลกที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ปริมาณสต็อก ยางธรรมชาติของโลกที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าอาจแตะระดับ 3.2 ล้านตัน ในช่วงไตรมาส 4 ก็จะยิ่งเป็นปัจจัยกดดันราคายางเพิ่มมากขึ้น
ASTV ผู้จัดการออนไลน์