My Community

ข่าวที่มีผลต่อราคายาง => ข่าวยางโดยตรง => ข้อความที่เริ่มโดย: Rakayang.Com ที่ ธันวาคม 03, 2014, 09:49:25 AM

หัวข้อ: อ.ส.ย.โละสต๊อกยาง 2 แสนตันให้จีนเกษตรฯ-เอกชนตั้งกองทุน 400 ล.ซื้อขายล่วงหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Rakayang.Com ที่ ธันวาคม 03, 2014, 09:49:25 AM
อ.ส.ย.โละสต๊อกยาง 2 แสนตันให้จีนเกษตรฯ-เอกชนตั้งกองทุน 400 ล.ซื้อขายล่วงหน้า


ขายแล้วยางสต๊อกรัฐ 2.08 แสนตัน เคาะราคา 1.9 USD/กก.ส่งมอบจริงภายในกลางเดือน ธ.ค.นี้ บัฟเฟอร์ฟันด์ เดินเครื่องเต็มกำลัง ดันราคายางสูงกว่าเอกชน 1.3-2 บาท/กก. รัฐร่วมเอกชนเตรียมตั้งกองทุนซื้อขายยางล่วงหน้า 400 ล้าน หวังกระตุ้นราคาในตลาด AFET


แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) ได้เซ็นสัญญาขายยางพาราในสต๊อกรัฐบาล 2.08 แสนตัน ซึ่งเป็นสต๊อกจากโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางพาราปี 2555 ให้กับไชน่า ไห่หนาน รับเบอร์ อินดัสทรี กรุ๊ป ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 57 ในราคา 1.9 เหรียญสหรัฐ/กก.สำหรับยางเกรดพรีเมี่ยม และราคาจะลดหลั่นลงมาตามคุณภาพยาง


นายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) กล่าวว่า การขายยางในสต๊อกรัฐบาล 2.08 แสนตัน ที่ทางผู้ซื้อให้ข่าวไปแล้วนั้น จะมีการส่งมอบสินค้าภายใน 15 วัน ตามระบุในสัญญา หรือไม่เกินกลางเดือน ธ.ค.นี้


ส่วนกองทุนมูลภัณฑ์กันชน หรือบัฟเฟอร์ฟันด์ ขณะนี้เข้าทำงานเต็ม 100% มีการประมูลซื้อยางในตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่เข้าซื้อล่าสุดวันที่ 28 พ.ย. 57 อยู่ที่ 49.30 บาท/กก.ถือว่าสูงกว่า ผู้ประมูลรายอื่น 1.3-2 บาท/กก. ซึ่งการเข้าซื้อนี้ยังยืนยันว่าเป็น Moving Stock จะไม่มีการเก็บยางไว้เป็นสต๊อกอีกแน่นอน


นายชนะชัยกล่าวว่า โครงการกองทุนมูลภัณฑ์กันชนไม่ได้มีการซื้อยางแผ่นดิบ จะซื้อเฉพาะยางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการสินเชื่อ สนับสนุนสถาบันเกษตรกรรวบรวมและแปรรูปยางวงเงินรวม 15,000 ล้านบาท ซึ่งมีจุดประสงค์ให้เกษตรกรนำยางไปแปรรูปมากขึ้น ขณะนี้บัฟเฟอร์ฟันด์เข้าค้ำราคายาง RSS3 ไว้ที่ประมาณ 49 บาท/กก.จะมีส่วนต่าง 5 บาท/กก.จากราคาประมูลยางแผ่นดิบในตลาดกลางภาคใต้ทั้ง 3 แห่ง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 44 บาท/กก.เป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรต้องการแปรรูปมากขึ้น โดยมีโครงการสินเชื่อมูลค่า 15,000 ล้านบาทดังกล่าวเป็นแหล่งสนับสนุนเงินทุน


นายวิวัฒน์ ตีระวนิชพงศ์ กรรมการและผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแนวคิดที่จะจัดตั้งกองทุนซื้อขายยางพาราในตลาด AFET มูลค่ากองทุน 400 ล้านบาท จากการลงทุนของเอกชน 200 ล้านบาท และงบประมาณรัฐบาล 200 ล้านบาท ระยะโครงการ 1 ปี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2558 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดหาและแต่งตั้งผู้จัดการกองทุน ซึ่งกำลังเจรจากับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หากไม่มีการตอบรับจากธนาคารพาณิชย์ อาจจะเจรจากับกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ต่อไป


ด้านนายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กลไกการทำงานของกองทุนดังกล่าวยังไม่เป็นแผนปฏิบัติชัดเจน เนื่องจากมอบหมายให้เอกชนในนามสมาคมยางพาราไทยไปหารือร่วมกับตลาด AFET เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการมานำเสนอ ถือว่าเป็นการหาแนวทางร่วมกัน ไม่ใช่การสั่งการโดยกระทรวงเกษตรฯ ซึ่ง เป้าหมายของกองทุนนี้คือการกระตุ้นให้มีความเคลื่อนไหวในตลาด AFET มากขึ้น และรักษาเสถียรภาพราคาในตลาด AFET






Souce: ประชาชาติธุรกิจ