NOW
"โปร-สตรีม" รุกคาร์แคร์หรู เร่งปูพรมสาขาหวังโต 20%
ยางไทยส่งเข้าจีน8แสนตันเคว้ง ปรับสูตรคอมพาวนด์ใหม่ผลิตยาก
20 ต.ค. 2557 เวลา 07:20:35 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
จีนบอมบ์ยางไทย เตรียมกำหนดสัดส่วนยางธรรมชาติในยางผสมสารเคมีไม่เกิน 88% ผู้ส่งออกยางร้อง รมว.พาณิชย์ช่วยด่วน เหตุส่งเข้าจีนถึง 8 แสนตัน/ปี ราคายางขยับอีก กก.ละ 2-3 บาท หลัง 6 ชาติผู้ผลิตเตรียมเซ็นลงนามร่วมห้ามขายต่ำกว่าตันละ 1,500 เหรียญสหรัฐ
รายงาน ข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเจน นำชัยสิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนสมาคมยางพาราไทย และผู้ประกอบการยางจำนวนมากเข้าหารือกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากคณะกรรมการดูแลมาตรฐานแห่งชาติด้านเคมีและยางพาราจีนอยู่ระหว่าง การร่างข้อกำหนดมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับยางคอมพาวนด์ จะกำหนดว่า ปริมาณยางธรรมชาติในยางคอมพาวนด์ไม่ควรมากกว่าร้อยละ 88 ของวัตถุดิบจากปกติที่ไทยส่งไปจะมีสัดส่วนยางธรรมชาติถึงร้อยละ 95 ทั้งนี้ คาดว่าประเทศจีนจะกำหนดมาตรฐานใหม่ มีผลบังคับใช้ในปลายปีนี้ได้
ทางสมาคมยางพาราไทยแจ้งว่า มาตรฐานใหม่ที่จีนกำหนดขึ้น จะทำให้ผู้ผลิตยางคอมพาวนด์ไทยไม่สามารถผลิตยางคอมพาวนด์ป้อนกลุ่มลูกค้าจีน ปีละประมาณ 8 แสนตันได้ต่อไป และจะทำให้ผู้ผลิตยางคอมพาวนด์ในไทยลำบาก สมาคมคาดว่าหลังจากจีนเปลี่ยนสูตรยางคอมพาวนด์ ผู้นำเข้าจีนอาจตัดสินใจเปลี่ยนเป็นนำเข้ายางธรรมชาติ 100% ทั้งนี้ ยางธรรมชาติจัดเป็นสินค้าอ่อนไหวของจีน การส่งออกจากไทยไปจีนจึงเสียภาษีนำเข้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) และอัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 20 ในขณะที่ยางคอมพาวนด์ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าภายใต้ ACFTA และอัตราภาษี MFN อยู่ที่ร้อยละ 8 และสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางชิงเต่าบอกว่าการเปลี่ยนสูตรอย่างนี้ จะนำยางไปใช้ไม่ได้
ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ กล่าวว่าในการประชุมทูตพาณิชย์ไทยสัปดาห์นี้ จะให้ทูตหารือกับจีนและในเดือน พ.ย.ที่นายกรัฐมนตรีไทยเดินทางเยือนจีน จะขอหารือนอกเวที ถึงการปรับเปลี่ยนสูตรยางคอมพาวนด์ที่ส่งผลกระทบไทย
ส่วนประเด็นที่ ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูง 6 ชาติผู้ผลิตยางรายใหญ่ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และสิงคโปร์ เห็นพ้องให้รัฐมนตรีมีการเซ็นลงนามขายยางในราคาเดียวกันคือ ยางแท่งราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 1,500 เหรียญสหรัฐ ถ้าราคาต่ำกว่านี้ไม่ต้องขายหรือชะลอการขายนั้น ดร.หลักชัย กิตติพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ต้องรอรัฐบาลอินโดนีเซียแต่งตั้งรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องยางและมาเซ็นลงนามต่อ ซึ่งสมาคมยางพาราไทยได้ทำหนังสือเวียนถึงสมาชิกผู้ส่งออกแล้ว คาดว่าคงไม่มีใครขาย ล่าสุดราคายาง (17 ต.ค. 57) ขยับขึ้น กก.ละ 2-3 บาท โดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าเอเฟตยางแผ่นรมควันชั้น 3 จาก กก.ละ 54-55 บาท เป็น 56-57 บาท ขณะที่ยางแผ่นดิบขึ้นมาเป็น กก.ละ 46-47 บาท