ผู้เขียน หัวข้อ: คาดการณ์แนวโน้มราคายางประจำสัปดาห์ที่ 2-4 มกราคม 2557  (อ่าน 3282 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84880
    • ดูรายละเอียด
คาดการณ์แนวโน้มราคายางประจำสัปดาห์ที่ 2-4 มกราคม 2557

    ตลาด SHFE ได้ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือนและได้ลงติดต่อกันมา 12 วันซึ่งมีบ้างที่มีแรงดันขึ้นมาแต่ก็สู้แรงขายที่มีหนาแน่นกว่ากดลงมาเกือบทุกครั้ง วันนี้จีนทำ low อยู่ที่ 18010 หยวน ???ายหลังจากที่ดัชนี PMI ???าคการผลิตของจีนขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 51 จุด ต่ำสุดในรอบ 4 เดือนสะท้อนถึงการชะลอตัวของ???าคอุตสาหกรรม และอาจชะลอลงต่อเนื่องในปีนี้  ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความท้าทายที่ผู้นำจีนต้องเผชิญเพื่อที่จะรักษาระดับการขยายตัวและเดินหน้าการปฏิรูปในด้านต่างๆ แต่ก็สามารถที่จะเห็นแรงซื้อกลับมาเล็กๆเข้ามาบ้างถือว่าเบาบางพอสมควรเนื่องจาก  ด้านเทคนิคเข้าเขต Oversold แนะชะลอลงทุนรอดูทิศทางที่ชัดเจน หากราคาสามารถยืนเหนือ 17500 หยวนได้จะเห็นราคาค่อยๆปรับตัวขึ้นได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข่าวในแต่ละวันที่มีปัจจัยหนุนมากระตุ้นจีนได้หรือมั้ย)
 
 
    ส่วนตลาด afet วันนี้ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 84.90 -1.20 บาท/กก.สถานการณ์ราคายางใน afet เปิดตลาดวันแรกต้อนรับปี 2557 ด้วยการบวกเล็กน้อยขึ้นไปชน ema 13 วัน แต่ยืนไม่ไหวดิ่งลงมาปิดที่ 84.90 บาทลดลง 1.20 บาท ระยะสั้นลุ้นแนวรับที่ 84.50 บาทอีกที ถ้ารับไม่อยู่กรอบล่างของแนวโน้มขาขึ้นแถว 82 บาทและ 80.90 บาทจะเป็นแนวรับถัดไปจับตาค่าเงินบาทซึ่งวันนี้เข้าไปใกล้กับระดับ 33 บาท แต่ยังไม่อ่อนค่าหลุดระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เป็นวันหยุดของทางฝั่งสหรัฐ จึงทำให้ตลาดเงินค่อนข้างเงียบ ทิศทางสำหรับวันพรุ่งนี้คาดว่าเงินบาทจะยังอ่อนค่าได้ต่อ แต่อาจจะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ และจะเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า ปัจจัยที่ทำให้บาทอ่อนเกิดจากสาเหตุหลักในประเทศ นักวิเคราะห์ เผยตลาดหุ้นวันทำการแรกของปี 57 ร่วงลงอย่างแรง Underperform ตลาด???ูมิ???าค คาดว่านักลงทุนต่างชาติอาจปรับพอร์ต เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศยังประเมินไม่ได้ว่าจะยีดเยื้อเพียงใด แนวโน้มวันพรุ่งนี้สถานการณ์การเมืองยังไม่พ้นความคลุมเคลือและมีความเสี่ยง ตลาดอาจแกว่ง sideway down ต่อ
  คาดแนวรับ 84.50  /82  แนวต้าน  85.50/87
 
    ตลาดยางจริงหลายคนวิตกเรื่องค่า Cess กันว่าเปิดปีใหม่มา รง.อาจจะปรับลดทันที 3 บาทจากราคา FOB ซึ่งวันนี้อยู่ที่ RSS 82.40(-1.00) STR20 74.55(-0.50) ถ้าเทียบจากราคาโรงงานหลาย รง.วันนี้ก็ไม่ได้ปรับลงหนักอย่างที่หลายคนกังวลซึ่งได้เงินบาทช่วยหนุนไว้เป็นผลดีกับ???าคส่งออก แต่อาจจะค่อยๆปรับลงแต่ก็ต้องไปตามกลไกตลาดเช่นกัน แต่ที่เห็นได้ชัดคือราคาน้ำยางที่ปรับตัวลงอย่างหนัก เช่น  ตรังแล้งดีบ่อแจ้ง 59-60 บาท ,น้ำองค์การนาบอน60จบ// ห้วยปรีกเช้า59---- แต่ถ้าจากสถิติและประสบการณ์ช่วงความหนาวจะทำให้น้ำยางแข็งตัวช้าลง จึงทำให้ระยะเวลาที่น้ำยางไหลนานขึ้น ช่วงแรกของการเปิดกรีดความเข้มข้นน้ำยางจะสูง ต่อมา ความเข้มข้นจะลดลง(อาจลดลง 3-4 %) แต่ผลผลิตน้ำยางจะมากขึ้นไปอีก  บางสวนน้ำยางจะล้นถ้วยก็มี ช่วงนี้นับเป็นช่วงโอกาสทองของชาวสวนยางพารา ช่วงหนึ่ง แต่มันก็เป็นไปตามกลไกตลาดคือผลผลิตออกมากกว่าความต้องการของตลาดทำให้มีการกดราคา แต่ตรงนี้ก็เป็นโอกาสทองสำหรับพ่อค้าที่ซื้อน้ำยาง มาทำแผ่นดิบหรือแผ่นรมควันเพราะถ้าเราเทียบ ณ.ราคาวันนี้น้ำยาง 59 บาท/กก.บวกค่าดำเนินการประมาณ 6-8 บาท จะอยู่ประมาณ 65-67 บาท ซึ่งราคายางแผ่นดิบหญ อยู่ที่ 72.17 บาท/กก. ยางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 75.29 บาท/กก. ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ยังยิ้มได้อยู่ คาดว่าในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนอาจเป็นการปรับตัวขึ้นได้
 

 
(ปล.คาดการณ์ทั้งหมดเขียนจากความคิดเห็นส่วนตัว)
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 02, 2014, 11:00:33 PM โดย Rakayang.Com »

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84880
    • ดูรายละเอียด
เกร็ดความรู้เล็กๆลองอ่านกันดู         
 
       ปกติเราจะกรีดยางตอนกลางคืนก่อนเวลา 06.00 น เพราะให้น้ำยางมาก การกรีดยางตั้งแต่เวลา 6-8 น น้ำยางลดลงเล็กน้อยคือ ประมาณ 3 % กรีดยางเวลา 9-11 น น้ำยางลดลง 20 % กรีดยางตั้งแต่ 12-14 น น้ำยางลดลง 31 % กรีดยางเวลา 15-17 น น้ำยางลดลง 23 % กรีดยางตั้งแต่ 18-20 น น้ำยางลดลง 6 % หลังจาก 20.00- 06.00 น น้ำยางกรีดได้ผลผลิตปกติ การที่น้ำยางลดลงเมื่อกรีดตอนกลางวัน เพราะมีการคายน้ำของใบทำให้แรงดันของท่อน้ำยางในต้นลดลง ดังนั้นใครทำสวนยางถ้าต้องกรีดเอง ก็ต้อง หากินตอนรุ่งสางนะครับ คือต้องตื่นก่อนไก่จะได้ผลผลิตดีที่สุด ตื่นสายเมื่อไร รายได้ลดลง
        ฤดูกาลในแต่ละรอบปีหนึ่ง ๆ มีผลต่อความชุ่มชื้นในดิน, อุณห???ูมิทั้งในดิน,อากาศ และความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศ หากจะเริ่มพิจารณาความเข้มข้นของน้ำยางจากต้นฤดูฝนซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง หน้าร้อนและหน้าฝน พบว่าในช่วงนี้ความชุ่มชื้นของดินเริ่มมีบ้าง ต้นยางพาราเริ่มได้รับน้ำบ้างแต่เปลือกต้นยางก็ยังคงแข็งอยู่ ซึ่งทำให้ผนังเซลของท่อน้ำยางเก็บน้ำไว้ได้น้อย เมื่อกรีดยางในช่วงนี้ น้ำยางก็จะหยุดไหลในระยะเวลาที่ไม่นาน เพราะน้ำในผนังเซลดังกล่าวไม่สามารถซึมผ่านหรือซึมผ่านผนังเซลได้น้อย จึงทำให้น้ำในน้ำยางมีน้อยหรือจะได้น้ำยางที่มีความเข้มข้นสูงนั่นเอง โดยพันธุ์ยางที่มีความเข้มข้นสูงก็จะหยุดไหลเร็วกว่าพันธุ์ยางที่มีความเข้ม ข้นต่ำ ทำให้พันธุ์ยางที่มีความเข้มข้นต่ำมีผลผลิตมากกว่าพันธุ์ยางที่มีความเข้ม ข้นสูง
      ครั้นเมื่อต้นยางเข้าสู่ช่วงกลางฤดูฝน ดินได้รับน้ำฝนมากขึ้นจนอิ่มตัว ส่งผลให้เปลือกต้นยางมีความนุ่มมากขึ้นซึ่งทำให้มีปริมาณน้ำในผนังเซลของท่อ น้ำยางมากขึ้น เมื่อกรีดและน้ำยางไหล น้ำก็จะซึมผ่านผนังเซลท่อน้ำยางได้ดีขึ้น ทำให้ความเข้มข้นของน้ำยางลดลง น้ำยางก็จะไหลได้นานขึ้น ทำให้ได้รับผลผลิตน้ำยางมากขึ้น ในระยะนี้พันธุ์ยางที่มีความเข้มข้นสูงก็จะให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ยางที่มี ความเข้มข้นต่ำ

      เมื่อปลายฤดูฝนมาถึงและลมหนาวเข้ามาเยือน ความหนาวจะทำให้น้ำยางแข็งตัวช้าลง จึงทำให้ระยะเวลาที่น้ำยางไหลนานขึ้น ช่วงแรกของการเปิดกรีดความเข้มข้นน้ำยางจะสูง ต่อมา ความเข้มข้นจะลดลง(อาจลดลง 3-4 %) แต่ผลผลิตน้ำยางจะมากขึ้นไปอีก  บางสวนน้ำยางจะล้นถ้วยก็มี ช่วงนี้นับเป็นช่วงโอกาสทองของชาวสวนยางพารา ช่วงหนึ่ง เมื่อผ่านหน้าหนาวก็จะเริ่มเข้าหน้าร้อน อุณห???ูมิของอากาศเริ่มร้อนขึ้น แสงแดดส่องลงถึงพื้นดินมากขึ้น จึงทำให้อุณห???ูมิในสวนยางพาราร้อนขึ้น กอปรกับลมหนาวหยุดพัด อากาศเริ่มแห้งมากขึ้น น้ำยางก็จะหยุดไหลเร็วขึ้น ต้นยางเริ่มผลัดใบ ไม่มีการสังเคราะห์แสงสร้างอาหาร ทำให้ได้น้ำยางที่มีความเข้มข้นต่ำ(อาจอยู่ที่่ 25-28 %) และผลผลิตก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน