ผู้เขียน หัวข้อ: รัฐสั่งโละสต๊อกยาง 2 แสนตัน  (อ่าน 1025 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88287
    • ดูรายละเอียด
รัฐสั่งโละสต๊อกยาง 2 แสนตัน
« เมื่อ: ตุลาคม 24, 2014, 09:01:26 AM »
รัฐสั่งโละสต๊อกยาง 2 แสนตัน

?อำนวย? ของบ 6.5 พันล้านผุดสนามฟุตซอล

          นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ที่ผ่านมาได้หารือถึงแนวทางการใช้ยางในประเทศให้เพิ่มขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกและสร้างเสถียรภาพด้านราคายางในประเทศ เพราะปัจจุบันไทยส่งออกยางมากถึง 86% ของปริมาณการผลิตรวม ที่ประชุมจึงมีความเห็นตรงกันว่าควรปรับลดปริมาณส่งออกลงมาอยู่ที่ 70% ของปริมาณผลผลิตรวม ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรมีการนำยางในสต๊อกรัฐจำนวน 208,000 ตัน มาใช้ในประเทศ

           ทั้งนี้ แนวคิดของกระทรวงเกษตรฯคือนำยางในสต๊อกไปใช้ในเชิงสาธารณกุศล เช่น แปรรูปเป็นอิฐบล็อกยาง เพื่อทำสนามฟุตซอล บล็อกตัวหนอนปูพื้นสนามเด็กเล่น สนามออกกำลังกาย พื้นที่ในวัด ซึ่งจะเร่งดำเนินการเพื่อให้เป็นรูปธรรมได้ในไตรมาส 1 ปี 2558 โดยจะเริ่มจากการทำสนามฟุตซอลให้กับโรงเรียนมัธยมในแต่ละจังหวัดทั่วประ เทศ พร้อมร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ให้เป็นหน่วยงานที่เลือกพื้นที่ทำ สนามฟุตซอลให้กับโรงเรียน


            ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงเกษตรฯว่า กระทรวงเกษตรฯ จะแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแปรรูปยาง ภายใต้การดำเนินงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสินค้ายางพาราอย่างเป็นระบบครบ วงจร เพื่อดำเนินการแปรรูปยางพาราในสต๊อกรัฐ 50,000 ตัน เบื้องต้นจะขออนุมัติงบประมาณ 6,500 ล้านบาท อายุโครงการ 1 ปี เริ่มจาก ต.ค.57-ก.ย.58 โดยตั้งเป้าหมายว่า จะช่วยการจัดการยางพาราในสต๊อกรัฐให้มีศักยภาพและมีเสถียรภาพในระยะยาว



             ด้านนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบ 2 โครงการสินเชื่อเพื่อ ช่วยเหลืออุตสาหกรรมยางพารา ประกอบด้วย 1.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการแปรรูปน้ำยางข้น โดยสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนวงเงิน 10,000 ล้านบาท เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อยางส่วนเกิน และ 2.โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง เพื่อขยายกำลังการผลิตปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิตวงเงิน 15,000 ล้านบาท.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (24/10/2557)